15.01.201905:41:00UTC+00ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ระหว่างที่มีการลดลงของอุปทาน

ราคาน้ำมัน ปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร เนื่องจากการลดลงของอุปทานของกลุ่มผู้ผลิตในโอเปกและ ประเทศรัสเซีย รวมทั้ง การลดลงของแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐอเมริกา ที่ได้ส่งเสริมต่อความเชื่อมั่นมากขึ้น ราคาน้ำมันดิบมาตรฐานจากเบรนท์ในตลาดระดับโลก ปรับตัวขึ้นมาถึง 0.90% มาอยู่ที่ 59.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าจากทาง West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐอมริกา เพิ่มขึ้นมาถึง 0.85% ที่ระดับ 50.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สมาชิกของทางโอเปก พร้อมกับประเทศที่ไม่ได้เป็นสสมาชิดในโอเปก อย่างเช่นประเทศรัสเซีย ได้ตกลงกันในช่วงปลายปี 2018 ในการลดกำลังการผลิตลงไปถึง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อสกัดการปรับตัวลงของตลาดและ ส่งเสริมเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกของตัวพวกเขาเองด้วย ในสหรัฐอเมริกา บริษัทด้านพลังงานหลายแห่งของสหรัฐอเมริกา ได้ทำการลดการใช้งานแท่นขุดน้ำมันสี่แห่ง ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 11 เดือนมกราคม จึงทำให้ยอดรวมทั้งหมด ลดลงไปเหลือ 873 จากระดับสูงสุดที่เท่ากับ 888 ในปี 2018 ในขณะเดียวกัน มีการรายงานข้อมูลด้านธุรกิจจากสถาบัน นิกเกอิประจำวัน ในวันนี้ออกมาว่า ประเทศญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า จะเริ่มต้นนำเข้า น้ำมันจากอิหร่าน ซึ่งถูกสั่งห้าม เนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯอเมริกาที่เกิดนขึ้นเร็วในช่วงต้นเดือนนี้ หลังจากนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ไปเป็นเดือนที่สี่ในรอบเดือนธันวาคมแล้วจะพบว่า ประเทศเกาหลีใต้ มีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศอิหร่าน ภายในเดือนนี้หรือ เดือนถัดไป ธนาคารจากสหราชอาณาจักรอังกฤษอย่าง HSBC ได้ปรับลด คาดการณ์ด้านราคาน้ำมันดิบของทางเบรนท์ในปี 2019 ลงมาอยู่ที่ 16 ดอลลาร์ ไปจนถึง 64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งแสดงให้เห็นถึง สมมติฐานที่แข็งแกร่งขึ้น เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของอุปทานน้ำมันในสหรัฐอเมริกา และความไม่แน่นอนต่อ อัตราการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันในระดับโลก