14.07.202000:45:00UTC+00จีดีพีของไตรมาสที่สองในประเทศสิงคโปร์ลดลง 41.2% ในรอบไตรมาส

กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมได้ออกมานำเสนอการคาดการณ์ล่วงหน้าในวันอังคารว่า ตัวเลขผลผลิตในประเทศขั้นต้นของประเทศสิงคโปร์ลดลงไปในฤดูกาลนี้ถึง 41.2% ในรอบไตรมาส ของไตรมาสที่สองปี 2020 โดยการปรับตัวลงนั้นเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชือ COVID-19 ซึ่งไม่ตรงกับการคาดการณ์ว่าจะลดลงไปถึง 37.4% หลังจากปรับขึ้นมา 3.3% จากการปรับตัวลงในช่วงสามเดือนก่อนหน้านี้ (จากเดิมอยู่ที่ -4.7%) ในแต่ละปีจีดีพีของสิงคโปร์ลดลงไป 12.6% ซึ่งไม่ตรงกับการคาดการณ์ใน 10.5% ตามการปรับตัวขึ้นมา 0.3% จากที่ร่วงลงไปในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้ (จากเดิมอยู่ที่ -0.7%) ภาคการผลิตขยายตัวมาเป็น 2.5% ในรอบปีของไตรมาสที่สอง ซึ่งน้อยกว่าการขยายตัวที่เกิดขึ้นมาใน 8.2% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มการผลิตชีวการแพทย์ ในอีกด้านหนึ่งอุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอ และการหยุดชะงักของสถานประกอบการได้ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตในด้านเคมี, วิศวกรรมการขนส่ง และกลุ่มการผลิตทั่วไป ภาคการผลิตในรอบไตรมาสนี้ลดลง 23.1% ซึ่งเป็นการย้อนตัวจากการขยายตัวมาเป็น 45.5% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ ภาคการก่อสร้างลดลง 54.7 ต่อปี ซึ่งลดลงไปอย่างมากจากการที่ลดลงมาแล้วเป็น 1.1 ในไตรมาสก่อนหน้านี้ การก่อสร้างลดลง ซึ่งนำไปสู่การหยุดกิจกรรมการก่อสร้างไปส่วนใหญ่ ในช่วงระยะเวลาเช่นเดียวกับ การหยุดชะงักของกำลังคนที่เกิดจากมาตรการเพิ่มเติม เพื่อไปลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 รวมทั้งข้อจำกัดด้านการเคลื่อนไหว ในหอพักแรงงานต่างชาติ ภาคการก่อสร้างในรอบไตรมาสได้หดตัวไป 95.6% ซึ่งมากกว่าการหดตัวใน 12.2% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตได้ลดลง 13.6% ในรอบปี ซึ่งมากกว่าการลดลงไปแล้วถึง 2.4% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ ภายในภาคบริการด้วยแล้ว ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อย่างเช่นการพักผ่อน และภาคการขนส่งทางอากาศได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากข้อจำกัดด้านการเดินทางทั่วโลก และแบบภายในประเทศ ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศ และการเดินทางทางอากาศหยุดนิ่งทันที ภาคบริการที่มุ่งเน้นในภายนอก อย่างเช่นการค้าส่ง และการขนส่งทางน้ำได้รับผลกระทบเชิงลบจาก อุปสงค์ภายนอกที่ลดลง เนื่องจากหลายๆ ประเทศทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในไตรมาสนี้อุตสาหกรรมบริการการผลิตลดลง 37.7% ซึ่งยิ่งเป็นการลดลงที่มากกว่า 13.4% ในไตรมาสแรก