18.09.2018 07:56 AM
แผนการซื้อขายสำหรับวันที่ 17 เดือนกันยายน ปี 2018
สัปดาห์ใหม่ที่เริ่มต้นด้วยการเจรจา เกี่ยวกับอนาคตของสงครามการค้า ที่สหรัฐอเมริกายังคงสามารถประกาศใช้งาน ภาษีนำเข้าใหม่ต่อสินค้าจากประเทศจีนได้ในวันนี้ และประเทศจีนก็ยังลังเลที่จะย้อนกลับมาเจรจาอีกครั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตลาดทางการเงิน ยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนใดๆออกมา ซึ่งอาจจะอธิบายได้ในบางส่วนซึ่งมันมาจาก ช่วงวันหยุดในประเทศญี่ปุ่น
ในตลาดสกุลเงินจะพบได้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงข้ามช่วงข้ามคืนเกิดขึ้นเล็กน้อย และเงินดอลลาร์สหรัฐเองก็อ่อนค่าลงไปเล็กน้อย ซึ่งน่าจะเป็นที่น่าแปลกใจกัน เนื่องจากความกังวลต่อสงครามการค้าโดยปกติแล้วมักจะช่วยเงินดอลลาร์ ทางด้านคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR / USD) ได้ปรับตัวขึ้นมาจาก 1.1610 ไปที่ 1.1640, ส่วนคู่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และเยน (USD / JPY) กำลังปรับตัวขึ้นไปยัง 112 นอกจากนั้นแล้วคู่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์สหรัฐ (AUD / USD) เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้กับ 0.7150
ในตลาดหุ้นจะพบว่ามีปฏิกิริยาเกิดขึ้นมา โดยที่ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ลดระดับลงไป 1.2% และดัชนี Hang Seng ลดระดับลงไป 1.6% ส่วนดัชนี Nikkei225 จะไม่มีการดำเนินการใดๆ ในช่วงวันหยุดของประเทศญี่ปุ่น
ในวันจันทร์ที่ 17 เดือนกันยายนนั้น ปฏิทินกิจกรรมจะเริ่มมีความสำคัญกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่นักลงทุนทั่วโลกก็ควรให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูล ดัชนีราคาผู้บริโภคจากยูโรโซน, ข้อมูลจาก Bundesbank ประจำเดือน และ การแถลงการณ์ทั้งสองครั้งจากสมาชิกในธนาคารกลางแห่งยุโรป ได้แก่ Peter Praet และ Benoit Coeure ในช่วงอเมริกาเซสชั่น จะมีการรายงานข้อมูลที่สำคัญที่สุดทั้งสองฉบับออกมา ได้แก่ การซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศของแคนาดา และดัชนีการผลิตของ Empire State จากเฟดที่นิวยอร์ก ในสหรัฐอเมริกา
บทวิเคราะห์คู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) สำหรับวันที่ 17 เดือนกันยายน ปี 2018
ข้อมูลที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ ก็คือข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคในกลุ่มยูโรโซน ที่จะออกมาในเวลา 09.00 น. ตามเวลาแบบ GMT สำหรับผู้มีส่วนร่วมในตลาดต่างก็คาดการณ์กันว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับ 2.0% เช่นเดียวกับเดือนก่อนหน้านี้
ดัชนีราคาผู้บริโภค เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญสำหรับอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซน หากพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นแล้วสำหรับอัตราเงินเฟ้อ คือการลดลงในอำนาจการซื้อของเงินยูโร ซึ่งแต่ละยูโรจะสามารถซื้อสินค้าและบริการได้น้อยลง เนื่องจากราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้น ส่วนดัชนีก็ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้า และการบริการ ที่ทางภาคครัวเรือนทั่วไปอาจจะต้องซื้อ เมื่อดัชนีราคาผู้บริโภค อยู่ในระดับที่สูง มันก็แสดงให้เห็นว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ได้ก่อตัวขึ้นมาในระบบเศรษฐกิจของประเทศยูโรโซน มันจึงอาจจะสร้างแรงกดดันต่อ ธนาคารกลางแห่งยุโรปเพื่อเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นมา แต่เมื่อดัชนีราคาผู้บริโภค ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทางธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ก็คาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงไป หรือรักษาระดับให้ลดต่ำลง เพื่อที่จะได้ไปกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามกฎแล้ว ทางธนาคารจะปรับอัตราดอกเบี้ย เพื่อที่จะรักษาอัตราเงินเฟ้อ ในราคาผู้บริโภค ให้อยู่ในช่วง 0 ถึง 2%
มาพิจารณากันที่ภาพรวมทางเทคนิคของคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) ในกรอบระยะเวลา H4 จะพบได้ว่า ตลาดยังคงเคลื่อนไหวอยู่ภายในช่องทาง แต่ราคาก็พยายามทดสอบ แนวรับที่ต่ำกว่า หลังจากที่มีการปรับตัวที่ระงับไว้ในระดับที่ 1.1720 สำหรับแนวรับของช่วงถัดไปจะสามารถพบได้ที่ระดับ 1.1617 แต่ หากมีการ เคลื่อนตัวทะลุผ่าน ที่ต่ำกว่าระดับนี้ ก็จะแสดงให้เห็นว่า ราคาได้ออกจากช่องทางด้วยเช่นกัน โปรดสังเกตว่า ยังมีแนวรับในเส้นแนวโน้มสีดำ ที่อยู่ในระดับ 1.1600 ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ด้วยเช่นกัน ส่วนโมเมนตัมยังคงอยู่สูงกว่า ระดับกึ่งกลางที่ 50 แต่สภาวะของตลาดในตอนนี้ได้อยู่ในช่วง overbought ซึ่งจะเป็นการยกตัวตามที่ได้คาดการณ์ไว้นั้นเอง
คุณได้กดชื่นชอบโพสต์นี้ในวันนี้แล้ว
*บทวิเคราะห์ในตลาดที่มีการโพสต์ตรงนี้ เพียงเพื่อทำให้คุณทราบถึงข้อมูล ไม่ได้เป็นการเจาะจงถึงขั้นตอนให้คุณทำการซื้อขายตาม
รับผลกำไรจากการเปลี่ยนแปลงอัตราสกุลเงินดิจิทัลกับ InstaForex.
ดาวน์โหลด MetaTrader 4 และเปิดการซื้อขายครั้งแรกของคุณ.