การเพิ่มขึ้นของความตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลางได้กลายมาเป็นตัวจุดฉนวนสำหรับการเพิ่มขึ้นของ ราคาน้ำมันในระดับที่สูงที่สุดในรอบ 2.5 ปี จากระดับต่ำเดิมในช่วงเดือนมิถุนายนนั้นพบว่า ผู้ผลิตเบรนท์ได้ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 40เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับข้อมูลที่ออกมาเกี่ยวกับการจับกุมที่เกิดขึ้นใน ประเทศซาอุดิอาระเบียและการยิงขีปนาวุธจากเยเมนที่ไปถึงริยาด เป็นระยะเวลาที่นานมาแล้วที่ทางนักลงทุนหลายคนไม่ได้ประสบกับความขัดแย้งทุกประดภท จึงได้ให้ความสนใจกับการเดินหน้าของทางโอเปกและการทำเหมืองหินในสหรัฐอเมริกา ในเร็วๆนี้จะเป็นที่แน่ชัดว่าตลาดจะพร้อมปรับสมดุลได้ โดยพวกเขาต้องการตัวกระตุ้นใหม่สำหรับการเติบโต จึงกลายมาเป็นสถานการณ์ที่สำคัญในตะวันออกกลาง

ในตอนนี้ มีความกังวลอยู่บางส่วนที่ว่าในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนั้น ทางผู้ส่งออกน้ำมันอาจจะขยายข้อตกลงในเวียนนาเกี่ยวกับการลดการผลิตลงไป อย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2018 ในเวลาเดียวกัน การลดลงของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่าบริษัทหลายแห่ง ในประเทศอเมริกาได้เริ่มต้นที่จะสนใจในประเด็นอย่างเช่นการทำกำไร ในช่วงสุดสัปดาห์ของวันที่ 3 พฤศจิกายนนั้น คุณ Baker Hughes ได้ออกมารายงานถึงการปรับตัวลดลงไปถึง 8 แท่น สำหรับการปรับระดับของตัวบ่งชี้ทั้งสองอาจจะไม่ได้ช่วยลดแรงกระตุ้น ถ้าหากในช่วงสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ บริษัทหลายแห่งในอเมริกาได้พยายามที่จะจ่ายหนี้สิ้นของตนเองด้วยการเพิ่มการผลิตขึ้นมา ในตอนนี้พวกเขามีทางออกอื่นแล้ว

กระแสการเคลื่อนไหวของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและการผลิตน้ำมันใน สหรัฐอเมริกา

แหล่งที่มา: Bloomberg.

ดังนั้นแล้ว ฝ่ายตรงข้ามอาจจะมาพร้อมกับข้อตกลงที่เป็นเหตุเป็นผล สำหรับการเกิดปัจจัยทางการเมืองขึ้นมานั้นได้ปรับระดับไปหา "แนวโน้มขาขึ้น" สำหรับทางเบรนท์และ WTI โดยที่มันได้ชี้ให้เห็นอยู่เป็นประจำถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ตะวันออกกลางกำลังเกิดปัญหต่อเรื่องส่วนเกินและยอดเงิน ที่ค่อนข้างมีส่วนต่างที่มาก ซึ่งอาจจะพบได้ในช่วงครึ้งที่สองของฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นแล้วความขัดแย้งระหว่างคูดิชสถานและตุรกี, ซาอุดิอาระเบียและการประท้วงของชาวอิหร่าน, ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการช่วยชีวิตของตะวันตกที่โดนลงโทษ กับทางเตหะราน เนื่องจากความไม่พอใจของ Donald Trump กับประวัติศาสตร์ของโครงการนิวเคลียร์ในประเทศนั้นและในที่สุดการจับกุม เจ้าชายทั้งสิบเอ็ดและเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจหลายสิบคนในAyr ที่ ริยาดได้กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการชุมนุมอย่างรวดเร็วของสัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า ในตอนท้ายแล้วอเะไรที่น่าจะเกิดขึ้นในเมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ก็ได้เกิดขึ้นจริงแล้วในตอนนี้ ทางด้านตลาดเองก็กำลังหารือกันอย่างจริงจังถึงแนวโน้มทางเบรนท์ที่อาจจะปรับขึ้นมาราวๆ 70เหรียญต่อบาร์เรล

คุณ Merrill Lynch จากธนาคารกลางแห่งอเมริกาได้มองว่าอาจมีการปรับขึ้นมาถึง $75 ในอนาคตข้างหน้า ในทางตรงข้าม Commerzbank มั่นใจถึงข้อมูลพื้นฐานนั้นอาจจะไม่สามารถนำมาตัดสินราคาในปัจจุบันของน้ำมันได้ ถึงแม้ว่ามีข่าวรือออกมาเกี่ยวกับการคอรัปชั่นในประเทศซาอุดิอาระเบีย แต่นโยบายด้านน้ำมันของริยาดก็ยังคงเหมือนเดิม สำหรับความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพวกเขา และTehran เองก็อาจจะเพิ่มระดับขึ้นมาในส่วนของการเจรจาเกี่ยวกับการยื่ดระยะข้อตกลงเวียนนา

ทางเทคนิคแล้วจะพบได้ว่า เป้าหมายใน 161.8% และ 261.8% สำหรับกราฟรูปแบบ AB = CD แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นของเบรนท์ ที่อาจจะอ่อนแรงลงไป

แผนผังรายวันของทางเบรนท์