ข้อมูลด้านเศรษฐกิจมหภาคในเชิงบวกได้ทำให้เงินดอลลาร์ได้มีการปรับตัวจากการปรับตัวลงในระยะยาว มาเป็นการขายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น
หากเทียบกับเงินยูโรแล้ว เงินดอลลาร์ได้ปรับตัวลงไปต่ำกว่าระดับทางจิตวิทยาที่ 1.24 เหตุผลก็คือ อุปสงค์ที่ปรับตัวขึ้นมาในเงินดอลลาร์ หลังจากมีการรายงานข้อมูลในเชิงบวกออกมาเกี่ยวกับ ตลาดที่อยู่อาศัยในเืดอนมกราคม สำหรับจำนวนของสิ่งก่อสร้างใหม่ได้เพิ่มขึ้นมาถึงร้อยละ 9.7 ทางด้านผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การเติบโตน่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.4 และต่อจากนั้นในร้อยละ 7.4 สำหรับจำนวนของใบอนุญาตการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ไว้ในร้อยละ 3.5 ส่วนการเติบโตด้านกิจกรรมในภาคการก่อสร้าง อาจจะก่อให้เกิดการชะลอตัวลดลงมาของ ราคาที่อยู่อาศัย
รายงานจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้อยู่ในช่วงบวก ดัชนีความเชื่อมั่นได้ปรับตัวขึ้นมา 99.9 เมื่อเทียบกับ 95.7 ในเดือนธันวาคม อย่างที่เห็นไดชัดว่า แนวโน้มของการเก็บภาษีนั้นค่อนข้างได้รับอิทธิพลจากการเริม่ต้นของ การปฏิรูปด้านภาษี พร้อมกันกับ การลดลงของความเชื่อมั่น แทนที่จะเป็นการเติบโต โดยที่ระดับสูงสุดได้ถูกสร้างขึ้นมา ตั้งแต่ช่วงที่สองในปี 2004 ที่แสดงให้เห็นในสังคมอเมริกา โดยที่แนวโน้มของการปฏิรูปนั้นค่อนข้างอยู่ในแนวโน้มที่ดี
นอกจากการปรับตัวขึ้นใน ราคาการนำเข้า และการส่งออก ที่มากกว่าการคาดการณ์แล้ว ซึ่งอาจจะมีการส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ และพวกเราก็จะพบกับ การเติบโตด้านความเชื่อมั่นใจเงินดอลลาร์ แม้ว่าอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาในตลาดหุ้นในเร็วๆนี้
การคาดการณ์ต่อการเติบโตของ GDP ในช่วงไตรมาสแรก จากทางด้านธนาคารกลางแห่งแอตลานต้า ได้ฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย ในร้อยละ 3.2 ในวันจันทร์ตอนเย็น สำหรับด้านลบนั้นมาจาก ข้อมูลที่อ่อนแอของยอดการค้าปลีก และอัตราเงินเฟ้อในผู้บริโภค ที่ยังทรงตัวอยู่ สำหรับประเด็นด้านการขายในเงินดอลลาร์ ได้ลดลงไปอย่างมาก
ตลาดยังไม่ทราบถึงการปฏิรูปภาษีที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ในช่วงก่อนการเลือกตั้งนั้น นาย Trump ได้มุ่งเน้นเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่า เขาจะเริ่มต้นลดการขาดดุลในงบประมาณ และภาระหนี้สินที่มาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกอย่างได้เดินหน้าไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยที่การขาดดุลในงยประมาณได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ และระดับของภาระหนี้สินในสาธารณะอีกด้วย ทางด้านธุรกิจพบว่า ยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดระดับการกู้ยิมเงิน ในทางตรงกันข้าม ข้อดีของการลดอัตราภาษี ก็อาจไม่สามารถทำการลดภาระหนี้สิน แต่การเติบโต ในหลายบริษัทตั้งใจจะออกพันธบัตรให้มากขึ้นในปีนี้ ให้มากกว่าปี 2017 โดยแนวโน้มนี้อาจจะกลายมาเป็นการกลับตาลปัตรของการปฏิรูปภาษีไปได้
เหตุการณ์ที่สำคัญในสัปดาห์ที่จะถึง ก็คือการรายงาน ผลการประชุมของคณะกรรมการผู้กำหนดนโยบายทางการเงิน หรือ FOMC ในวันที่ 31 เดือนมกราคม สำหรับการทดสอบตามการแถลงการณ์นั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจาก การประชุมในเดือนธันวาคม แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทราบถึง ตัวเลขที่ทางคณะรัฐบาลได้คาดการณ์ไว้ในการดำเนินการปฏิรูปด้านภาษี โดยข้อมูลที่ได้รายงานออกมา ก็อาจเสริมสร้างการปรับตัวขึ้นในความผันผวนได้อีก นับตั้งแต่การคาดการณ์ในจำนวนการปรับอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ที่อาจจะต้องจับตามองดู ส่วนตลาดเองก็มีความมั่นใจว่าจะมีการปรับในช่วงเดือนมีนาคม และมิถุนายน แต่ก็มีความเห็นออกมาที่หลากหลาย และการดำเนินการตามแผนนี้อาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตลาดได้อย่างสูง
ดัชนีกิจกรรมทางธรกิจจากสถาบัน Markit ที่จะนำเสนอออกมาในวันพุธ
ในช่วงนี้ ไดนามดิกของดัชนีนั้นอยู่ในทิศทางตรงกันข้าม โดยดัชนี PMI ด้านการผลิตเพิ่มขึ้นมา ในเดือนมกราคมที่ 55.5p เมื่อเทียบกับ 55.1p ในเดือนธันวาคม ซึ่งแสดงให้เห็นถึง การเติบโตในอุตสาหกรรมการผลิตอย่างมาก นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2015 โดยข้อมูลจากทางภูมิภาคอื่นๆเองก็มีการเติบโตที่เกิดขึ้นมา โดยดัชนี ของ ISM ได้ปรับตัวขึ้นมามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และในวันพุธ อาจจะมีการยืนยันถึงการเติบโตในด้านกิจกรรมทางธุรกิจออกมาเพิ่มเติม
ในเวลาเดียวกัน ในภาคการบริการ กิจกรรมได้ลดลงไปในรอบหลายเดือนติดต่อกัน ซึ่งค่อนข้างปั่นทอนภาพรวมอย่างมาก โดบคาดว่า หากเทียบกับส่วนที่เหลือของความเชื่อมั่นในผู้บิรโภคที่เพิ่มขึ้นมา และข้อมูลจากตลาดแรงงาน ดังนั้นแล้วดัชนี PMI ในภาคการบริการอาจจะมีการเติบโตเกิดขึ้นมา ซึ่งจะช่วยสร้างการสนับสนุนเพิ่มเติมให้กับเงินดอลลาร์
ดังนั้นแล้ว ในช่วงสัปดาห์นี้ เงินดอลลาร์อาจจะสามารถเอาตัวรอดจากผลกระทบ และอาจจะมีโอกาสในการอยู่ในระดับที่ดีได้
ในวันจันทร์ เป็นวันหยุดตามเทศกาลของสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าอาจจะจากการขาดการรายงานข้อมูลออกมา ดังนั้นแล้ว แนวโน้มของสินค้าอาจจะออกมาอยู่ในระดับสูงที่สุด แต่ สกุลเงินเยนเองก็ไม่ค่อยโอเคนักกับอุปสงค์ที่ลดลงมา สำหรับการเติบโตของคู่สกุลเงิน usdjpy ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังอาจจะมีการปรับตัวของอุปสงค์ในทองคำ และเงินฟรังก์
