คู่สกุลเงินปอนด์ และดอลลาร์สหรัฐ (GBP/USD) ใน 1H

คู่สกุลเงินปอนด์/ดอลลาร์ พยายามที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปในวันศุกร์ อย่างไรก็ตามมันไม่เหมือนกับคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์ มันก็ยังทำไม่ได้ โดยทั่วไปแล้วการเคลื่อนตัวของคู่สกุลเงินปอนด์ และดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนตัว แม้ว่ามันจะยังเกิดขึ้นอยู่ มีการพยายามเคลื่อนตัวผ่านระดับสูงของวันที่ 26 เดือนพฤษภาคม แต่มันก็ยังทำไม่ได้ นอกจากนี้พื้นที่แนวต้านที่แข็งแกร่งใน 1.2402-1.2423 และระดับแนวต้านที่ 1.2399 กำลังรอให้คู่สกุลเงินนี้ไปเหนือกว่านี้ ดังนั้นจึงมีแนวกีดขวางทั้งสามตอนนี้ ยังสามารถหยุดการเคลื่อนตัวขึ้นด้านบน ผู้ซื้อของเงินปอนด์อังกฤษยังคงสงสัยในความเหมาะสม ของการดำเนินการซื้อขายเหล่านี้ ถ้าหากแนวโน้มพื้นฐานทั่วไปมีค่าเฉลี่ยคล้ายกับในสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ดังนั้นพวกเราสามารถคาดการณ์ได้ถึงการเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่แตกต่างกัน จากนั้นในกรณีของคู่สกุลเงินปอนด์/ดอลลาร์ แนวโน้มพื้นฐานยังคงอ่อนตัวกว่าในสหรัฐ ดังนั้นแนวโน้มขาขึ้นยังคงอยู่ที่เดิม แต่แนวโน้มขาขึ้นสามารถเริ่มสร้างแรงกดดันต่อคู่สกุลเงิน และพยายามที่จะเคลื่อนตัวผ่านเส้นแนวโน้มขาขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

คู่สกุลเงินปอนด์ และดอลลาร์สหรัฐ (GBP/USD) ใน 15M

ช่องทาง linear regression ด้านล่างสุดทั้งสองเส้น ยังคงมุ่งหน้าขึ้นด้านบนใน ขอบเขตเวลา 15 นาที ดังนั้นยังไม่มีสัญญาณของการสิ้นสุดแนวโน้มขาขึ้นส่วนนี้ได้ อย่างไรก็ตามอย่างที่พวกเราบอกไว้ด้านบน มันจะเป็นการยากสำหรับผู้ซื้อในการเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่แนวต้าน ซึ่งอยู่ด้านบน ดังนั้นช่องทางทั้งคู่อาจเริ่มมุ่งหน้าลงในตอนแรกของสัปดาห์การซื้อชายใหม่ และในรอบเดือน

รายงาน COT

ภาพรวมของคู่สกุลเงินยูโร/ดอลลาร์ ถึงแม้ข้อเท็จจริงที่ว่า อุปสงค์โดยรวมของเงินปอนด์ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ในบรรดาเทรดเดอร์รายใหญ่ทั้งหมดในช่วงสัปดาห์ที่มีการรายงาน (มีการเปิดสัญญาซื้ และขายมาทั้งหมดถึง 8600 สัญญา) ผู้เข้าร่วมที่มีประสบการณ์ส่วนใหญ่ซื้อเงินปอนด์ เพิ่มมาเป็น 5205 สัญญา และจากสัญญาสำหรับการขายนั้นเอง มันลดลงไป (-1,686 สัญญา) ดังนั้นความเชื่อมั่นของเทรดเดอร์ยังคงสูงขึ้น และในตอนท้ายของสัปดาห์ที่แล้ว สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่เพื่อให้การเคลื่อนตัวขึ้นด้านบนเกิดขึ้นต่อไป เทรดเดอร์รายใหญ่จำเป็นต้องลงทุนต่อไปในสกุลเงินอังกฤษ และด้วยเหตุนี้พวกเราต้องการเหตุผลสำหรับกรณีของเงินปอนด์ ที่ยังยากที่จะพบ

แนวโน้มเชิงพื้นฐานของเงินปอนด์อังกฤษยังคงอยู่ช่วงติดลบ ไม่มีการนำเสนอรายงานสำคัญของเศรษฐกิจมหภาคออกมาจากสหราชอาณาจักรตลอดทั้งสัปดาห์การซื้อขายก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามมันชัดเจนแล้วว่า เศรษฐกิจอังกฤษยังคงตองพบกับปัญหาอันร้ายแรง ถ้าหากจีดีพีของสหรัฐอาจลดลงไปประมาณ 5% ในไตรมาสแรก จากนั้นมันอาจจะลงไปมากกว่าจีดีพี ของสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ ในรอบหนึ่งเดือนยังคงเหมือนเดิม จนถึงวันที่ 1 เดือนกรกฎาคม เมื่อลอนดอน และบรัสเซลส์จะต้องประกาศการสิ้นสุดของ "ระยะเวลาการเปลี่ยนแปลง" ในวันที่ 31 เดือนธันวาคม ปี2020 การเจรจาระหว่างทุกฝ่าย เกี่ยวกับข้อตกลงทั้งหมดกำลังดำเนินมา "ในขณะนี้" อย่างมาก ในช่วงรอบสามที่เป็นรอบสุดท้ายไม่ได้ทำให้ต่างฝ่ายต่าง เข้าใกล้กับการลงนามในข้อตกลง และแสดงให้เห็นว่ายังไม่มีความคืบหน้าเกิดขึ้นในประเด็นที่ซับซ้อนที่สุด ในช่วงครึ่งหลังของเดือนมิถุนายน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Boris Johnson จะเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์เป็นการส่วนตัว เพื่อเจรจากับ Ursula von der Leyen และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตามแทบจะไม่มีใครคาดว่า นายกรัฐมนตรีจะสามารถทำให้ "ลดความขัดแย้ง" ระหว่างทุกฝ่ายในสองสามวัน เป็นไปได้ที่เขาจะไม่สามารถตกลงกันได้ และเขาจะกลับไปยังลอนดอนโดยไม่มีความคืบหน้า แต่เป็นอีกครั้งที่ เขาจะสามารถประกาศต่อสาธารณชน ว่าเขาพยายามเจรจากับสหภาพยุโรป แต่สหภาพยุโรปยังไม่ยอมรับ

พวกเรามีสองเหตุการณ์หลักสำหรับการปรับตัวของเหตุการณ์นี้ในวันที่ 1 เดือนมิถุนายน

1) การปรับตัวของคู่สกุลเงินปอนด์/ดอลลาร์สหรัฐ ยังคงอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ตามการเคลื่อนตัวขึ้นด้านบนอาจเกิดขึ้น หลังจากที่มีการฝ่าตัวผ่านเส้นแนวต้านที่ 1.2361 ถ้าหากมันเกิดขึ้น มันอาจเปิดการซื้อขนาดย่อมมาได้ ระหว่างที่กำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่แนวต้านใน 1.2402 - 1.2423 พวกเราขอแนะนำให้พิจารณาถึงธุรกรรมการซื้อมากขึ้น และในระยะยาวมากกว่าเดิม ถ้าหากมีการเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ตรงนี้ โดยมีเป้าหมายไปยังระดับแนวต้านใน 1.2502 การทำผลกำไรจะอยู่ที่ราวๆ 30จุดในกรณีแรก และ 70 ในกรณีที่สอง

2) ผู้ขายยังคงไม่มีการเคลื่อนไหว แต่จะพร้อมที่จะปรับตัวไปใต้เส้นแนวโน้มด้านบน ถ้าหากคู่สกุลเงินทรงตังอยู่ใต้เส้นนี้ พวกเราขอแนะนำให้ปรับการชายของคู่สกุลเงินปอนด์/ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายของเส้น Senkou Span B ใน 1.2206 และระดับต่ำของวันที่ 18 เดือนพฤษภาคมใน 1.2073 ในกรณีนี้เองการทำผลกำไรจะเกิดขึ้นราวๆ 55 จนถึง 180จุด