เจ้าหน้าที่ด้านการเงินของประเทศจีนตั้งเป้าที่จะฟื้นฟูตลาดตราสารหนี้ และปรับปรุงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ผู้เชี่ยวชาญของ Bloomberg เชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ด้วยการขายพันธบัตรรัฐบาลในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นจำนวนมาก

ในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม ทางจีนขายพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์เป็นมูลค่าถึง 6 พันล้านดอลลาร์ การขายครั้งล่าสุดถือว่าเป็นการเสนอขายตราสารหนี้สกุลเงินดอลลาร์ที่มากที่สุดในประเทศจีน กระทรวงการคลังเปิดเผยถึง แผนการที่จะขายพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี, 5 ปี, 10 ปีและ 20 ปี นักวิเคราะห์มองว่า จำนวนพันธบัตรที่จะออกในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของปีที่แล้ว และจะสูงขึ้นกว่าเดิมสามเท่าจากจำนวนที่ออกของปี 2017

อ้างอิงจากการคาดการณ์ของ Bloomberg ตลาดตราสารหนี้ในรูปของเงินดอลลาร์ของจีนนั้นมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 740 พันล้านดอลลาร์ มันถูกมองว่าเป็นแหล่งเงินกู้ยืมที่สำคัญสำหรับผู้กู้ยืมในท้องถิ่น

ในช่วงก่อนหน้านี้ ปริมาณของพันธบัตรดังกล่าวที่ออกในปี 2018 ลดลงไปอย่างมาก ในช่วงที่มีความขัดแย้งทางการค้าเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีความคืบหน้าอย่างไม่มากในการเจรจาทางการค้า จีนยังคงเพิ่มปริมาณพันธบัตร ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังมาตรการนี้คือ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐอเมริกาที่ลดลง ดังนั้นมันจะยิ่งใช้เงินน้อยลงสำหรับจีน ในการปล่อยพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์

อ้างอิงจากคุณ Becky Liu นักกลยุทธ์ด้านตราสารหนี้ของจีนจาก Standard Chartered Plc ได้ระบุว่าประเทศจีนได้ขยายขอบเขตของตลาดตราสารหนี้ในรูปของเงินดอลลาร์ออกไป เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทในท้องถิ่นได้รับเงินทุนเพียงพอในช่วงที่มีความไม่แน่นอน

สิ่งที่สำคัญคือ ประเทศจีนอยู่ในอันดับสองของตลาดตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามเนื่องจากระบบการเงินที่อ่อนแอ ประเทศจีนจึงพยายามสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสม สำหรับผู้ลงทุนสถาบันภายในประเทศ รวมถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญ และบริษัทด้านประกันภัย นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ไว้ว่า เงินหยวนเข้ามาอยู่ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ จากการสนับสนุนการใช้เงินหยวน เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ทฤษฎีดังกล่าวยังไม่มีข้อโต้แย้งที่มีน้ำหนักเพียงพอ