ขณะที่จัดการกับปัญหาของ Brexit สหราชอาณาจักรอังกฤษไม่ได้เตรียมการไว้สำหรับความท้าทายอันยิ่งใหญ่ สำหรับ Brexit ที่เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน ที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหภาพยุโรป แล้วการพังทลายสกุลเงินประจำชาติ ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมานานกว่าสองปีแล้ว ผลกระทบของเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำลายโอกาสสุดท้ายของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร สำหรับการฟื้นตัวอย่างมั่นคง การเข้าถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจภายในประเทศ รัฐบาลสหราชอาณาจักรเริ่มแผนการในการเพิ่มภาษี, การปรับค่าจ้างแบบตรึงตัว และเงินบำนาญสำหรับข้าราชการ กระทรวงการคลังของอังกฤษแสดงความกังวลว่า การกู้ยืมเงินของรัฐบาลในปีนี้อาจทำสถิติได้สูงถึง 337 พันล้านปอนด์ นั้นเป็นเหตุผลที่รัฐบาลพร้อมที่จะใช้มาตรการรุนแรงเช่นนี้ คุณ Boris Johnson กล่าวว่า “ พวกเราต้องทำตัวเหมือนรัฐบาลในช่วงสงคราม และต้องทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของเรา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คุณ Rishi Sunak รายงานไว้ว่า “ พวกเราควรมองหาโอกาสสำหรับภาษีใหม่ ที่สามารถบรรลุเป้าหมายนโยบายที่มากขึ้นของรัฐบาล เพื่อเพิ่มรายได้ในการบรรเทาแรงกดดันทางการคลังในระยะยาว การเพิ่มอัตราภาษีรายได้เป็นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ จะเพิ่มขึ้นมา 5 พันล้านปอนด์ " อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้สาธารณะ แต่รัฐบาลอังกฤษตกลงที่จะขยายโครงการช่วยเหลือด้านเงิน จนถึง เดือนตุลาคม ตั้งแต่วันที่ 13 เดือนพฤษภาคม ประเทศเริ่มลดมาตรการกักกันไปเรื่อยๆ และผู้คนจำนวนมากเริ่มกลับมาทำงาน ถ้าหากรัฐบาลยังคงเปิดเศรษฐกิจต่อไป แผนการในการเพิ่มภาษีอาจถูกยกเลิก