กระแสของการก่อจลาจลในสังคมดูเหมือนว่าจะยิ่งเพิ่มโอกาสให้กับนาย Donald Trump ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่ได้กำหนดไว้สำหรับฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และแรงกระตุ้นต่อต้านการเหยียดสีผิวในสหรัฐอเมริกานั้นอาจอยู่ในการควบคุมของนาย Trump ผู้ประท้วงออกมาต่อว่าการบริหารงานของประธานาธิบดี และการดำรงตำแหน่งในวาระที่สองของเขาในทำเนียบขาว อย่างไรก็ตามชาวอเมริกันที่ปฏิบัติตามกฎหมายรู้สึกเบื่อหน่ายกับการปะทะ ที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกที่ไม่ยอมอ่อนข้อ ความไม่พอใจได้กลายมาเป็นข้ออ้างจากการเกิดภัยหายนะในเมือง, ความรุนแรง และการปล้นหลากหลายครั้ง เมื่อพิจารณาถึงเหตุการณ์ล่าสุดแล้วนั้น ชาวอเมริกันที่ปฏิบัติตัวดี, มีการศึกษา และทำงานหนักกำลังมองสถานการณ์จากมุมมองอื่นอยู่ ถ้าหากโจร และผู้ปล้นสะดมลุกขึ้นมาต่อต้านนาย Donald Trump มันอาจเป็นความคิดที่ดีที่จะสนับสนุนเข

บางอย่างที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของอเมริกา ในศตวรรษที่ XX การจลาจลต่อต้านรัฐบาล พร้อมด้วยการลอบวางเพลิง และปล้นร้านค้าทำให้มั่นใจได้ว่าประชาชนในประเทศจะลงคะแนนให้ Richard Nixon และ Ronald Reagan ในทำนองเดียวกันชาวอเมริกันที่เบื่อหน่าย แล้วต้องการความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยก็จะมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนนาย Donald Trump ต่อไป

ในขณะเดียวกันคุณ Joe Biden ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สูสีกับนาย Trump ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำในการสำรวจความคิดเห็นล่าสุด ที่ดำเนินการในภาครัฐส่วนใหญ่ในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน ผู้เข้าชิงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครตอยู่ในตำแหน่งรองประธานประธานาธิบดี เฉพาะในรัฐเพนซิลเวเนีย ผู้เชี่ยวชาญบางคนคิดว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งอาวุโสสามารถเปลี่ยนโฟกัส ไปกับการเดิมพันของนาย Joe Biden ในการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพของเขา ที่จะจัดการกับไม่สงบของประชาชนในอนาคต หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งเวลาจะบอกว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน การเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าครั้งไหนเป็นการแข่งขันที่รุนแรง ระหว่างผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งสองคนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจจบลงด้วยผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไม่ได้