ตลาดคริปโตเคอเรนซี่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ หากไม่มีกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพแล้วละก็ นักลงทุนหลายคนอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินลงทุน มีการรายงานหลายครั้งจากนักลงทุนจาก Telegram เองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกัน

ในวันที่ 29 เดือนมิถุนายน เป็นที่ทราบกันว่าศาลแขวงแห่งสหรัฐในเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์กสั่งห้าม Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram จากการเปิดตัวแพลตฟอร์มบล็อคเชน Telegram Open Network (TON) และคริปโตเคอเรนซี่ Gram

ศาลได้สรุปว่า คู่กรณีควรเข้าทำสัญญากับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) นอกจากนี้ศาลยังสั่งให้ Pavel Durov จ่ายค่าปรับเป็นเงินถึง 18.5 ล้านดอลลาร์ให้กับทางการอเมริกา และคืนเงินให้แก่นักลงทุนถึง 1.22 พันล้านดอลลาร์

อ้างอิงจากผู้ก่อตั้งช่องทางการสื่อสารอย่าง Telegram ว่าบริษัทได้ชดเชยนักลงทุนก่อนหน้านี้ไปจากการขาดทุนมากถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ การชดใช้นี้เป็นทั้งการชำระเงินโดยตรง และการชำระคืนด้วยเงินสดในรูปของสินเชื่อ

จากข้อตกลงดังกล่าวภายใน 3 ปี บริษัทมีหน้าที่แจ้งให้ทาง SEC ทราบถึงความตั้งใจที่จะเข้าร่วมในประเด็นของคริปโตเคอเรนซี่, เหรียญดิจิทัล และทรัพย์สินอื่นๆ ที่สร้างขึ้นโดยเทคโนโลยีบล็อคเชน

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ปริมาณการลงทุนในโครงการ TON และ GRAM อาจสูงถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ ในกรณีที่การเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จแล้วละก็ นักลงทุนคาดว่าจะได้รับโทเค็นมาเป็น 2.9 พันล้านโทเค็น อ้างอิงจากทางหน้าสื่อจะพบว่า มีมหาเศรษฐีชาวรัสเซียหลายคนอยู่ในกลุ่มของนักลงทุนในโครงการนี้

ก่อนหน้านี้คุณ Pavel Durov ได้วางแผนที่จะเลื่อนการเปิดตัว TON ไปเป็นเดือนเมษายน ปี2021 อย่างไรก็ตามผู้พัฒนาจาก TON Labs ไม่สนใจต่อการตัดสินใจของเขา พวกเขาก่อตั้งแพลตฟอร์ม TON แบบฟรีโดยหวังว่าจะถ่ายโอนโทเค็น TON ที่ฟรี ไปให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ มันจึงเป็นผลให้สถานการณ์บานปลายออกไป และนักลงทุนสูญเสียเงินของพวกเข

อ้างอิงจากคุณ Pavel Durov ที่ได้ระบุว่า บริษัทจะยังคงเดินหน้าในโครงการนวัตกรรมอื่นๆ ต่อไปอีก หลังจากการดำเนินการตามคำสั่งศาล คุณ Durov แสดงถึงความหวังในสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยมากขึ้น สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อคเชนในสหรัฐอเมริกาในอนาคต