ท่าทีของจีนเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่กำหนดแนวโน้มสำหรับตลาดคริปโตทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย คำสั่งของจีนเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินคริปโตภายในประเทศและบริษัทต่างๆทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของตลาดที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทันทีในเงิน bitcoin และ altcoins อื่นๆในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา การจัดการครั้งสุดท้ายของทางการจีนในอุตสาหกรรมด้านคริปโตเกี่ยวกับการวิจารณ์เมื่อทำให้มูลค่าของเงิน bitcoin ตกต่ำถึงเกือบ $29,000

สกุลเงินดิจิตอลตัวหลักกำลังมีการซื้อขายที่ระดับนั้นในเดือนมกราคมปี 2021 หากย้อนกลับไปตอนนั้นแฟนๆ ของเงินคริปโตและนักวิเคราะห์ต่างกำลังมองโลกในแง่ดีต่อตลาดคริปโต อย่างไรก็ตามจีนเดินหน้าเชิงรุกอย่างไร้ความปราณีในการปรับตัวอย่างที่ตื่นตาตื่นใจของเงิน bitcoin ไม่กี่เดือนต่อมาข่าวด้านลบจากจีนส่งคลื่นช็อกไปทั่วตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อวันที่ 21 เดือนมิถุนายนธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนได้ออกคำสั่งห้ามธนาคารในประเทศขนาดใหญ่และ Alipay ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินออนไลน์ของบุคคลที่สามที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดจากการประมวลผลธุรกรรมด้วยสกุลเงินดิจิทัลใดๆ การตัดสินใจจัดการกับตลาดคริปโต อย่างไรก็ตามสิ่งที่เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึงขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์ฝ่ายบริหารได้เพิ่มการปราบปรามอุตสาหกรรมคริปโต มณฑลต่างๆ ของจีนเริ่มออกมาเรียกร้องให้บริษัทขุดเหมืองต้องยุติธุรกิจของตนเอง คำสั่งใหม่มีผลบังคับใช้ในสี่จังหวัด รวมถึงมณฑลเสฉวนซึ่งเป็นที่ตั้งของฟาร์มการทำเหมืองที่ทรงพลังที่สุดของจีน การห้ามการขุดคริปโตเคอเรนซี่บีบบริษัทจำนวนมากออกจากประเทศ

จีนได้ดำเนินนโยบายเพื่อกระชับการควบคุมของรัฐบาลเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่ รองนายกรัฐมนตรีจีน Liu He เปิดเผยจุดยืนเข้มงวดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการขุดและซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ไม่นานหลังจากนั้นสำนักข่าวของรัฐบาล Xinhua กล่าวว่าจำเป็นต้อง “ควบคุมพฤติกรรมการขุดและการซื้อขาย bitcoin และป้องกันการส่งความเสี่ยงส่วนบุคคลไปสุ่สังคมอย่างเฉียบขาด” มาตรการชี้ขาดดังกล่าวจากทางการจีนได้ทิ้งร่องรอยไว้บนสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในทางกลับกันผู้ถือครองเงิน bitcoin รายใหญ่ที่สุดของจีนรีบขายโทเค็นดิจิทัลโดยคาดการณ์แนวโน้มขาลงที่อาจเกิดยืดเยื้อ