empty
 
 

นักลงทุนที่ลงทุนในตลาด Forex ควรตระหนักว่าการแลกเปลี่ยนค่าเงินนั้นมีความเสี่ยงในระดับหนึ่ง กล่าวคือคุณสามารถได้กำไรจากการลงทุน แต่หากคุณก้าวพลาดเพียงก้าวเดียว ก็อาจสูญเสียเงินทั้งหมดไปในพริบตา

การประสบความสำเร็จในการซื้อขายไม่ได้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ในการซื้อขายและความเป็นมืออาชีพเพียงเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เริ่มหัดเล่นหุ้นหรือมืออาชีพก็ควรเข้าใจว่าการลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยงเสมอ นักลงทุนทุกคนควรระมัดระวังในการลงทุน ในการที่จะได้กำไรจากการซื้อขายบนตลาด Forex นั้นนักลงทุนควรทำตามวิธีการที่สร้างสรรค์ มีความใส่ใจในรายละเอียดและหมั่นวิเคราะห์ปัจจัยที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของตลาด

โดยกลยุทธ์ 9 ประการดังที่จะกล่าวต่อไปนี้อาจช่วยให้นักลงทุนประสบความสำเร็จในการซื้อขายได้ :

  • 1. นักลงทุนที่ตัดสินใจลงทุนระยะสั้นถูกจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการล้มเหลวเป็นอันดับแรก โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ลงทุนระยะสั้นประสบกับความล้มเหลวคือการขาดการฝึกฝนและแผนการซื้อขายที่เคร่งครัด แต่ความล้มเหลวดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวพันธ์กับขีดจำกัดเรื่องระยะเวลาที่นักลงทุนเลือกซื้อขายแต่อย่างใด การขาดประสบการณ์และความรู้นั้นอาจส่งผลให้เกิดภาวะขาดทุนได้ อีกทั้งนักลงทุนระยะสั้นส่วนมากมักมีเงินทุนในบัญชีในจำนวนไม่มาก โดยหากอิงจากสถิติแล้วนักลงทุนระยะกลางและระยะยาวมักจะเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จมากกว่านักลงทุนระยะสั้น พวกเขามักจะลงทุนด้วยจำนวนเงินที่มากกว่า และมีความสามารถในการอาศัยอยู่ในตลาดการเงินที่ยืนยาวกว่าขึ้นอยู่กับเงินทุนตั้งต้นของพวกเขา
  • 2. นักลงทุนที่ล้มเหลวมักใช้เวลาส่วนมากในการวิเคราะห์ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรในวันรุ่งขึ้น ในขณะที่นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักจะให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ปัจจุบันและมักใช้กลยุทธ์ที่พวกเขาศึกษามาเป็นอย่างดีในการตัดสินใจซื้อขายขั้นสุดท้าย ในการที่จะประสบความสำเร็จในการซื้อขายนั้น นักลงทุนต้องสามารถคาดการณ์ไปถึงปฏิกริยาที่มวลชนมีต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้เนื่องจากความเป็นไปได้ในการทำกำไรที่สูงกว่ามักจะมาจากการที่นักลงทุนสามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมการซื้อหรือขายอย่างไร้เหตุผลของมวลชนโดยใช้แผนปฏิบัติการที่มีเหตุผล ดังนั้นจึงถือว่าการเป็นนักวิเคราะห์ที่ประสบความสำเร็จนั้นยากกว่าเป็นนักลงทุนมาก เพราะงานของนักวิเคราะห์มีความซับซ้อน พวกเขาต้องคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดและแนะนำวิธีการในการสร้างผลกำไรสูงสุด ในขณะที่นักลงทุนก็แค่ดำเนินการซื้อขายตามกระแสตลาดเพียงเท่านั้น
  • 3. นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักให้ความสำคัญกับการซื้อขายที่ขาดทุน รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างกำไรและขาดทุน ในขณะที่นักลงทุนที่ล้มเหลวมักให้ความสำคัญกับการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จเพียงเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการติดตามปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่สนใจผลกำไรหรือขาดทุน นักลงทุนมืออาชีพมักจะประมาณการณ์จำนวนเงินที่เขาจะได้กำไรและจำนวนเงินที่เขาสามารถสูญเสียอยู่เสมอ
  • 4. โดยทั่วไปนักลงทุนที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้มักจะล้มเหลวในการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนมืออาชีพและนักลงทุนที่มีประสบการณ์มักจะวิเคราห์ตลาดได้อย่างเที่ยงตรงโดยไม่นำความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ในกรณีที่นักลงทุนเปิดและปิด position โดยใช้อารมณ์หรือความรู้สึกเพียงอย่างเดียวจะถือว่าเป็นการลงทุนที่ไร้เหตุผล แต่อย่างไรก็ตามการไม่รับรู้ถึงความรู้สึกเลยก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ในบางครั้งความเครียดอาจนำไปสู่โรคความผิดปกติทางจิตหรือการสูญเสียความสามารถในการซื้อขายก็เป็นได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการใช้เหตุผลในการไตร่ตรองอารมณ์ความรู้สึกดังกล่าว
  • 5. นักลงทุนมือใหม่มักกังวลเกี่ยวกับสิทธิความถูกต้อง ในขณะที่นักลงทุนมืออาชีพมักควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้เป็นอย่างดี โดยพวกเขาจะตอบรับต่อปัจจัยที่มีผลต่อกำไรเพียงเท่านั้น การดำเนินการตามกระบวนการของตลาดนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่อย่างไรก็ตามเราควรที่จะแยกบทบาทชีวิตส่วนตัวกับบทบาทในการซื้อขายออกจากกัน เนื่องจากการให้ความสนใจกับการซื้อขายที่มากจนเกินไปอาจส่งผลให้เกิดโรคความผิดปกติทางจิตและความเหนื่อยล้าทางกายภาพได้ โดยปกติแล้วนักลงทุนมืออาชีพจะตอบสนองต่อกระบวนการของตลาดแบบทันท่วงที เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นหนทางเดียวที่ทำให้พวกเขาได้กำไรจากการซื้อขาย
  • 6. หลังจากสูญเสียเงินจากการลงทุนไป นักลงทุนที่ล้มเหลวมักจะเริ่มซื้อขายใหม่และทำตามขั้นตอนเดิมโดยทันที ในขณะที่นักลงทุนมืออาชีพมักจะวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแก้ไขวิธีการลงทุนของเขาโดยใช้ผลจากการวิเคราะห์ดังกล่าวเป็นหลัก โดยนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากมักไม่เปลี่ยนระบบการซื้อขายโดยทันที แต่พวกเขามักจะเปลี่ยนหลังจากวิเคราะห์เรียบร้อยแล้วว่าระบบเก่านั้นมีปัญหา นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักจะยึดระบบที่พวกเขาพัฒนาขึ้นโดยใช้กลยุทธ์ในการซื้อขายเพียงไม่กี่วิธีเท่านั้น
  • 7. นักลงทุนที่ไร้ซึ่งประสบการณ์มักพยายามที่จะนำเทคนิคในการซื้อขายของนักลงทุนที่มีชื่อเสียงมาใช้กับตนเอง ในขณะที่นักลงทุนมืออาชีพจะคำนึงถึงเทคนิคทุกรูปแบบที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ ซึ่งอาจจะเป็นเทคนิคของนักลงทุนที่มีชื่อเสียงก็เป็นได้ หากว่าเทคนิคดังกล่าวเหมาะสมกับสไตล์ในการซื้อขายของเขา ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความรู้เกี่ยวกับตลาดและระบบการซื้อขายในแบบของตนเองนั้นสำคัญกว่าเทคนิคที่ได้จากนักลงทุนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
  • 8.นักลงทุนที่ไร้ซึ่งประสบการณ์มักจะไม่สังเกตเห็นปัจจัยต่างๆที่ก่อให้เกิดผลกำไร ซึ่งจะตรงกันข้ามกับนักลงทุนมืออาชีพ ผลกำไรที่นักลงทุนได้มานั้นจะเป็นตัวกำหนดจำนวนเงินทุนหมุนเวียนของนักลงทุนแต่ละท่าน โดยจำนวนเงินที่ไหลเข้ามาในตลาด Forex ต้องมีมากกว่าเงินที่ไหลออก และนี่ก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนควรพิจารณาอย่างละเอียด
  • 9. เป็นเรื่องธรรมดาที่นักลงทุนมือใหม่มักจะเคร่งเครียดกับการทำกำไรจากการลงทุนมากเกินไป โดยจิตแพทย์หลายคนชี้ว่าความวิตกกังวลที่มากเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้มนุษย์ป่วยเป็นโรคต่างๆได้ง่ายยิ่งขึ้น ในทางตรงกันข้ามนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักลงทุนแบบสบายๆ กล่าวคือการลงทุนเป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งของพวกเขา

ในปัจจุบันนี้ทั้งนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จต่างก็กระโดดเข้ามาซื้อขายในตลาด Forex เป็นจำนวนมากโดยนักลงทุนบางท่านก็เปรียบการซื้อขายเหมือนกับการเล่นเกมส์บางอย่าง

หากเราเปรียบการซื้อขายกับเกมส์ ยกตัวอย่างเช่นเกมส์โบว์ลิ่ง ผู้เล่นมือใหม่มักจะคิดว่าการที่มืออาชีพทำสไตรค์ (STRIKE) ได้นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาใช้เวลาในการฝึกฝนนอกการแข่งขันมาก การซื้อขายก็เหมือนกับการเล่นกีฬาซึ่งในการที่จะซื้อขายให้ประสบความสำเร็จจะต้องมีทั้งองค์ประกอบภายในและภายนอกที่ครบถ้วนสมบูรณ์ นักลงทุนควรเอาจริงเอาจังกับการซื้อขายแต่ละครั้ง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างนักลงทุนมืออาชีพและนักลงทุนมือใหม่คือนักลงทุนมืออาชีพทำตามกลยุทธ์ในการซื้อขายอย่างเที่ยงตรง ในขณะที่นักลงทุนมือใหม่ทำการซื้อขายเหมือนกับการเล่นเกมส์

กลับไปที่หน้าหลักของบทความ
หากไม่สะดวกคุยในตอนนี้
ระบุคำถามไว้ได้ใน แชท.
Widget callback