อ้างอิงจากสถาบัน IHS Markit ที่ได้ออกมาระบุว่า ดัชนี PMI ด้านการผลิตในยูโรโซนได้ปรับตัวขึ้นมา 85.5 จุดในเดือนตุลาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจาก 58.1 จุดในเดือนกันยายน แล้วยังอยู่ต่ำกว่าการคาดการณ์ในตอนแรกที่ 58.6 จุด สำหรับการปรับตัวขึ้นมาอีกครั้งนั้นเกิดจาก การปรับตัวขึ้นมาจากประเทศเยอรมัน, เนเธอร์แลนด์ และออสเตรีย โดยข้อมูลดัชนี PMI ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในประเทศเยอรมัน และประเทศออสเตรีย ขณะที่ ดัชนี PMI ของประเทศเนเธอร์แลนด์ได้เพิ่มขึ้นมาในระดับสูงที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2011 สำหรับการขยายตัวของประเทศอิตาลี (จากที่พบในรอบ 80เดือน) และประเทศสเปน (ระดับสูงในรอบ29 เดือน) ทั้งคู่มีการปรับตัวขึ้นมา ส่วนดัชนี PMI ของประเทศฝรั่งเศสยังคงตัวอยู่ในระดับสูงในรอบ 77 เดือนภายในเดือนกันยายน สำหรับการเติบโตที่พบในประเทศไอร์แลนด์และกรีซ นั้นหมายความว่าทุกประเทศมีการขยายตัวเกิดขึ้นห้าเดือนติดต่อกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ประเทศไอร์แลนด์และกรีซก็มีอัตราการเติบโตที่อาจจะช้าอยู่บ้าง จากผลสำรวจก่อนหน้านี้ ส่วนการเติบโตของทั้งการผลิตและคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ก็ยังปรับตัวขึ้นมา ขณะที่อัตราการจ้างงานก็ปรับตัวไปในระดับสูง

กลับมาดูที่ภาพรวมทางเทคนิคของ คู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) ในแผนผังเวลา 4 ชั่วโมงจะพบได้ว่า ข้อมูลไม่ได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคามากเท่ากับที่เคยเกิดขึ้นมา โดยตลาดยังอยู่ในการสร้างฐานระหว่าง 38% ของแนว Fibo ในระดับที่ 1.1674 และแนวรับทางเทคนิคที่ระดับ 1.1610 สำหรับตัวบ่งชี้โมเมนตัมยังมีการเทรดต่ำกว่าระดับที่ 50 ดังนั้นแล้วแนว bias จะมุ่งหน้าลงด้านล่าง