เมื่อนาย Donald Trump ได้เริ่มแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด หรือต่อประเทศใดประเทศหนึ่งละก็ นักลงทุนก็จะเริ่มมีความกังวลใจทันที การสัมภาษณ์ของเขากับหนังสือพิมพ์ Sun ก็ได้สร้างความตกใจให้กับเหล่าแฟนๆของเงินปอนด์ สำหรับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึง แผนการของคุณ Theresa May ที่จะเป็นข้อตกลงกับสหภาพยุโรป และขอให้มีการปลดเกษียณของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ Boris Johnson ที่เป็นนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งยังลดระดับโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างลอนดอนและวอชิงตัน และยังทำให้มูลค่าของคู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐ (GBP/USD) ลดระดับลงมาถึงจุดต่ำสุดในระดับที่ 31 หลังจากนั้น การพบปะกันระหว่างนาย Trump และ May ก็กลายมาเป็นว่าทาง สื่อได้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาด และทางด้านทำเนียบขาวก็กำลังจับตามองดูสถานการณ์ของ Brexit จากนั้นก้ แล้วจากนั้นค่อยดำเนินการกับสหราชอาณาจักรต่อ

ทางด้านการเมือง ยังคงเป็นตัวตลก ที่สามารถปรากฏตัวขึ้นมาได้ตลอดเวลา และเปลี่ยนความสมดุลของอำนาจ ในคู่สกุลเงิน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินปอนด์ โดยที่เงินปอนด์ก็มีการตอบสนองที่ดีต่อการลาออกของผู้สนับสนุนของ Brexit แบบเต็มตัวของคุณ Boris Johnson และคุณ David Davis แต่เนื่องจากเริ่มเกิดการปลดตำแหน่งในรัฐบาลเกิดขึ้นมา คำถามจึงได้โผล่ขึ้นมาว่าคุณ Theresa May จะสามารถรักษาตำแหน่งของเธอได้หรือไม่? ต่อการดำเนินการจากทางนาย Donald Trump ฉันขอคิดว่าเขาเองก็คงไม่พอใจกับ เนื้อหาการดำเนินการของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่งคาดหวังอย่างสูงที่จะทำลายความสัมพันธ์หลายๆอย่าง ในความเป็นจริงแล้ว ข้อตกลงนี้เป็นเอกสารส่วนหนึ่ง ที่เจาะจงเฉพาะในภาคการบริการทางการเงิน ที่จะประสบกับการเปลี่ยนแปลง มิฉะนั้นแล้ว มันอาจจะทำให้มีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยต่อความสัมพันธ์ที่มีอยู่

ตัวกระตุ้นที่สำคัญอันดับที่สองของการเปลี่ยนแปลง ในมูลค่าของเงินปอนด์ คือการทำให้นโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษกลับสู่สภาวะปกติ โดยเงินปอนด์จะพบกับช่วงสัปดาห์ที่น่าสนใจอย่างมาก ในแง่ของปฏิทินทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเรียกมันว่าเป็นสกุลเงินในกลุ่มประเทศ G10 ที่น่าสนใจที่สุด จากการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตลาดแรงงานพบว่า อัตราเงินเฟ้อ, การค้าปลีก และการกู้ยืมสุทธิของภาคเอกชนจะทำให้แฟนๆ ของ "เงินปอนด์" อาจจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวออกมา

โดยทั่วไปแล้ว สถานการณ์ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกันกับช่วงเหตุการณ์ของเดือนพฤษภาคม เมื่อตลาดฟิวเจอร์ส ประเมินความน่าจะเป็นของการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยตามนโยบาย ในการประชุมครั้งต่อไปของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษที่ 80% หรืออาจจะไปสูงกว่า นี้เป็นตัวเลขที่ปรากฏในตอนนี้ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การประชุมของเดือนสิงหาคม ของคณะกรรมการผู้กำหนดนโยบายการเงิน จากนั้นแนวโน้มแบบ "การสนับสนุนทางเศรษฐกิจ" ของคุณ Mark Carney และการรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีผลค่อนข้างติดลบออกมา ก็ได้ทำให้ตำแหน่งของเงินปอนด์ในคู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐ (GBP/USD) ปรับตัวไปในระดับสูงสุด นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คู่สกุลเงินนี้ก็ได้สูญเสียไปแล้วประมาณ 9% โดยที่หัวหน้าของธนาคารกลางแห่งอังกฤษ ได้แทนที่ความโกรธด้วย ความเมตตา และจำนวนของสมาชิกที่สนับสนุน "การควบคุมทางเศรษฐกิจ" ก็พร้อมที่จะกระชับนโยบายการเงินในวันพรุ่งนี้ โดยจะเพิ่มขึ้นในสองถึงสามวันนี้