ในวันที่มีการประชุมในรอบเดือนพฤษภาคม ของธนาคารแห่งประเทศแคนาดาพบว่า เงินดอลลาร์แคนาดา แสดงให้เห็นถึงแรงกระตุ้นขาขึ้นอีกครั้ง ที่จะย้อนกลับไปที่ขอบเขตของตำแหน่งที่ 35 อย่างไรก็ตาม การคาดการร์ของการประชุม สำหรับสมาชิกในหน่วยงานกำกับดูแล ได้มีความดันจากแนวโน้มมากขึ้น ในสกุลเงินดอลลาร์แคนาดา ซึ่งคู่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและดอลลาร์แคนาดา (USD / CAD) กำลังปรับตัวขึ้นมาเป็นหลัก เนื่องจากการย้อนตัวขึ้นมาของ เงินดอลลาร์และ ความขัดแย้งทางการค้าที่ยังเกิดขึ้น ระหว่างสหรัฐอเมริกาและ ประเทศจีน ส่วนธนาคารกลางของประเทศแคนาดา สามารถเสริมสร้างการเติบโตนี้ได้ ถึงแม้ว่า คาดการณ์ว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการประชุมของรอบพฤษภาคม

โดยทั่วไปแล้ว ตลาดติดอยู่กับการคาดการณ์ของตัวเอง หลังจากการนำเสนอข้อมูลล่าสุด เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ขอเตือนคุณว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีใน ประเทศแคนาดา ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในเดือนเมษายนถึง 2% เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับ ข้อมูลตัวเลขของเดือนมีนาคมที่อยู่ใน 1.9% และอีก 1.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ การปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อ เชิงบวก ได้ย้อนกลับไปยังเทรดเดอร์ เพื่อหวังว่าจะช่วยทำให้จุดยืดของคุณ Stephen Poloz เกี่ยวกับแนวทางในนโยบายทางการเงินแข็งแกร่งขึ้นมา ธนาคารแห่งประเทศแคนาดา ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปห้าครั้ง นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของปีก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ในช่วงการประชุมสี่ครั้งที่ผ่านมา นอกจากนั้น ในการประชุมของเดือนเมษายนพบว่า เจ้าหน้าที่ ได้แยกเนื้อหาที่มีส่วนประกอบเกี่ยวกับการแถลงการณ์ ในความต้องการกระชับนโยบายการเงินเพิ่มเติม หลังจากนั้น ถึงแม้มีข่าวลือเกี่ยวกับ ความน่าจะเป็นในขั้นตอนการย้อนกลับ ก็ได้เริ่มแพร่กระจายไปในตลาด แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเจรจาก็จะจางหายไป

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความกลัวของตลาดเหล่านี้ส่วนใหญ่ มีการปรับตัวขึ้น หลังจากที่เงินดอลลาร์แคนาดา ติดอยู่ในช่องทางที่รอคอย ให้ข่าวออกมาเพื่อทำการกระตุ้น ยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด จากอัตราเงินเฟ้อในเดือนเมษายนที่ "กระตุ้น" ผู้เข้าร่วมในตลาด และคู่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและดอลลาร์แคนาดา (USD / CAD) ปรับตังลดลงไป ถึงช่วงระดับกลาง ของตำแหน่งที่ 33 ซึ่งกำลังปรับระดับต่ำในรอบสามสัปดาห์ แต่สิ่งดีๆเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นมานานนัก โดยวิกฤติ ครั้งต่อไปของความสัมพันธ์ ระหว่าง กรุงปักกิ่งและ กรุงวอชิงตัน มีความกดดันอย่างมาก ต่อเงินดอลลาร์แคนาดา จากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นมา ได้ไประงับนโยบายทางการเงินแบบเข้มงวด ขึ้นในประเทศชั้นนำในระดับโลก และ ประเทศแคนาดาก็ไม่รอด

หลังจากมีประเด็น การปรับอัตราภาษีขึ้นมา และประวัติของทาง Huawei ทางประเทศจีน เตรียมการที่จะดำเนินการตอบโต้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการจำกัดการส่งออกโลหะที่หายาก ข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ไปปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์แล้ว แต่ในวันนี้ ทางการของประเทศจีน ได้ยืนยันถึงความตั้งใจ ดังนั้น หนึ่งในตัวแทนของ กระทรวงการค้า ออกมากล่าวว่า กรุงปักกิ่ง จะมุ่งเน้นไปที่อุปสงค์ภายในประเทศเป็นหลัก แต่ ประเทศจีนเองก็พร้อม ที่จะส่งออกสินค้าหายาก ไปยังประเทศอื่นๆ แต่ "อยู่ในขอบเขตที่สมเหตุสมผล" มันเป็นที่น่าสังเกตว่า โลหะหายากเหล่านี้ ถูกใช้อย่างมากโดยชาวอเมริกัน ในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของวิทยุ, การผลิตอุปกรณ์, วิศวกรรมด้านนิวเคลียร์, วิศวกรรมเครื่องกล, อุตสาหกรรมเคมี และด้านโลหะผสม ซึ่งเกือบแทบทุกที่ ตั้งแต่การผลิตโทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงการผลิตในสายการบิน

อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ ระดับของการเผชิญหน้าในความสัมพันธ์ ระหว่างสหรัฐอเมริกากับ ประเทศจีนในตอนนี้ แสดงให้เห็นว่า มันยังห่างไกลจากการสู้รบทางการค้า และความจริงข้อนี้ จะมีผลกระทบตามมา ต่อสมาชิกของธนาคารกลางของประเทศแคนาดา คุณ Stephen Poloz แสดงถึงความกังวลหลายครั้ง ต่อการค้าในระดับโลก สำหรับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาตอนนี้ และ เนื่องจากเหตุการณ์ล่าสุด เขาเองไม่น่าจะเปลี่ยนจุดยืนของเขาในประเด็นนี้

จากข้อมูลด้านสถิติของเศรษฐศาสตร์มหภาค ทุกอย่างยังไม่มีความชัดเจน ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น อัตราเงินเฟ้อของประเทศแคนาดา แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดี แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม ค่อนข้างเป็นที่ต้องการ ในไตรมาสที่สี่ ของปีที่แล้วพบว่า ยอดจีดีพีของประเทศ ขยายตัวไปเพียง 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศขั้นสุดท้าย ปรับตัวลงมาจนถึง 1.5% นอกจากนั้น การนำเสนอข้อมูลล่าสุด ในไตรมาสแรกของปีนี้ ก็คาดการณ์ว่า จะเกิดขึ้นเฉพาะ วันศุกร์ที่ 31 เดือนพฤษภาคมเท่านั้น หลังจากการประชุมของเดือนพฤษภาคม ของธนาคารแห่งแคนาดา ดังนั้น สมาชิกของหน่วยงาน จะสามารถประเมินถึง การเปลี่ยนแปลงของตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเพียงทางอ้อม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเติบโตของการจ้างงานในไตรมาสแรก ทรงตัวอยู่ แต่ตัวบ่งชี้ในยอดการค้าปลีก แสดงให้เห็นว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคอยู่ในระดับต่ำ แน่นอนว่า การเติบโตของตลาดน้ำมัน สามารถเป็นแรงผลักดันเชิงบวก ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจใน ประเทศแคนาดา อ้างอิงจากความเห็นโดยทั่วไปของผู้เชี่ยวชาญที่ระบุออกมาว่า การเติบโตของจีดีพี ในไตรมาสแรก จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.2% ในรอบปี ในขณะที่ตามการคาดการณ์ ของเจ้าหน้าที่ในแคนาดา ข้อมูลตัวเลขนี้ จะเติบโตขึ้นมาเพียง 0.3% ถ้าหาก การคาดการณ์นี้เกิดขึ้นจริง เงินดอลลาร์แคนาดา จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ทั้งหมดนี้จะเป็นไปตามนั้น (ถ้าหากมันเป็น) หลังจาก การประชุมของเดือนพฤษภาคม ซึ่งเจ้าหน้าที่มีแนวโน้มที่จะระมัดระวังมากขึ้น และอาจเป็นแบบ "การสนับสนุน" ที่บ่นเกี่ยวกับ ความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจในระดับโลก

ดังนั้น เงินดอลลาร์แคนาดาส่วนใหญ่ พร้อมสำหรับการประชุมครั้งต่อไปของธนาคารกลาง คุณ Stephen Poloz จะรักษาคู่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและดอลลาร์แคนาดา (USD / CAD) ในตำแหน่ง 35 หรือ ย้อนคู่สกุลเงินนี้ไปในระยะของ 1.3390-1.3450 อย่างไรก็ตาม จากปฏิกริยาความผันผวนที่เกิดขึ้น มันไม่น่าเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ สำหรับสถานการณ์โดยทั่วไป ยังไม่ชัดเจน ในส่วนของข้อสรุประดับโลก โดยรวมแล้ว ข้อมูลของวันศุกร์ ในประเด็นของการเติบโตในเศรษฐกิจของประเทศแคนาดา จะสามารถทำให้เกิดการตอบสนองที่มากขึ้นกว่าเดิม ในทางตรงกันข้ามกับจุดยืนของคุณ Poloz ตามที่มีการคาดการณ์ไว้ส่วนใหญ่