นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรอังกฤษ แห่งกระทรวงการคลังได้ยื่นข้อเสนอเพื่อเพิ่มภาษีสำหรับผู้อยู่อาศัยชาวอังกฤษที่ร่ำรวยที่สุด เพื่อจัดการกับปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า เจ้าหน้าที่ของสหราชอาณาจักรกำลังอยู่ในช่วงพิจารณาปรับขึ้นภาษี และหารือกับผู้บริหารของธนาคารรายใหญ่ พวกเขากำลังวางแผนที่จะทำให้มันบังคับใช้ได้จริงในอนาคตอันใกล้นี้ มาตรการนี้คาดว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระในหมู่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ และเติมเงินเข้าไปยังกระเป๋าเงินสาธารณะ โดยไม่เป็นภาระให้กับประชาชนมีรายได้น้อย

ลอนดอนได้เปิดตัวหนึ่งในโครงการความช่วยเหลือที่มีความมุ่งมั่นที่สุดในโลก เพื่อช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 มาตรการสนับสนุนชุมชนเหล่านี้จะทำให้รัฐบาลจ่ายเงินมาเป็น 133 พันล้านปอนด์ นอกจากนี้ RSA Future Work Center ยังให้คำแนะนำว่ารัฐบาลอังกฤษควรจ่ายเงินถึง 2.5 พันปอนด์ต่อปีแก่พลเมืองชาวอังกฤษทุกคน อ้างอิงจากศูนย์การวิเคราะห์ได้ระบุว่า มาตรการนี้จะช่วยเร่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างมาก และช่วยให้ประชากรผ่านพ้นวิกฤติไปได้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการนำเสนอรายได้ขั้นพื้นฐานเองก็สามารถช่วยเศรษฐกิจอังกฤษได้

กระทรวงการคลังยังไม่ได้นำเสนอรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับแผน อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้ทำการสำรวจเชื่อว่า รัฐบาลมีแนวโน้มที่จะเพิ่มภาษีจากการออมเงิน, กำไรจากการขายหุ้น, ภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT หรืออสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ชาวอังกฤษผู้มีฐานะสามารถจัดสรรเงินทุนสำหรับโครงการช่วยเหลือของรัฐ ให้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรน่าตามที่พวกเขาต้องการ