หนี้สินของรัฐบาลกลางในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดแล้วเพิ่มมากกว่า 26 ล้านล้านดอลลาร์ ทางธนาคารกลางแห่งสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ประจำไตรมาสของบัญชีการเงินภายในประเทศ โดยระบุถึงความมุ่งมั่นของนาย Donald Trump และโครงการขนาดใหญ่ของเขา ทางผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหนี้สาธารณะอาจสร้างสถิติใหม่ได้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่าหนี้สินสาธารณะในสหรัฐอาจสูงขึ้นมาถึง 131.1% จากจีดีพีของปีนี้ หากลองมองย้อนกลับไปจะพบว่า ประวัติศาสตร์อเมริกันสมัยใหม่แสดงให้เห็นว่า สหรัฐเคยอยู่ในอาการที่ไม่ดีมาแล้ว ตัวอย่างเช่นในปี 1946 หนี้สินของรัฐเพิ่มขึ้นมา 106% จากผลผลิตทางเศรษฐกิจประจำปีของประเทศ อันเนื่องมาจากการใช้จ่ายทางสาธารณะอย่างมหาศาลหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ในปัจจุบันสาเหตุของการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก และการขยายการชำระภาษีเนื่องจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ นอกจากนี้การปฏิรูปภาษีที่ดำเนินการโดยนาย Donald Trump ก่อนหน้าการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้รายรับในงบประมาณลดลง สิ่งที่น่าแปลกคือสหรัฐเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหนี้อย่างมาก โดยมีอัตราส่วนของหนี้สินต่อจีดีพีที่สูงภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ดี ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าหนี้ของประเทศได้เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการใช้งานงานทุน และทรัพยากรที่มีอยู่อย่างไม่เป็นประสิทธิภาพ

คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐชี้ให้เห็นในการวิเคราะห์ว่า การออกกฎหมายเพื่อลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในตัวบุคคลจะยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงสิ้นปี 2020 อย่างไรก็ตามพรรครีพับลิกันเน้นย้ำอีกครั้งว่า อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ลดลงจะใช้งานจนเลยปี 2020ออกไป พวกเราให้คำมั่นว่าสภาคองเกรสครั้งต่อไปจะเริ่มผลักดันการขยายตัวกฎหมายนี้ออกไป ไม่ว่าจะมีการกระจายที่นั่งกันระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ตามที