ตามที่ Bloomberg ได้ระบุไว้ว่าธนาคารรายใหญ่ของสวิส, ยูบีเอสและ Credit Suisse อาจสร้างการร่วมมือกันของกลุ่มบริษัทในปีนี้ ปัญหาของการผูกมัดที่อาจเกิดขึ้นได้ถูกหยิบยกกลับมาในปี 2020 แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตัดสินใจในขั้นสุดท้าย

ปีที่แล้วยูบีเอสมีแนวคิดที่จะรวมกลุ่มดานธุรกิจเข้าด้วยกัน คราวนี้เป็น Credit Suisse ที่แสดงความสนใจอย่างมากในการร่วมมือที่อาจเกิดขึ้น ในช่ววก่อนหน้านี้บริษัทสูญเสียเงินหลายพันล้านเนื่องจากการล่มสลายของกองทุนป้องกันความเสี่ยงของสหรัฐ ผู้บริหารของ Credit Suisse ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทางการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจว่าวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับการขาดทุนก็คือการควบรวมกิจการ

สำนักข่าว Bloombergกล่าวไว้ว่าการสร้างกลุ่มก้อนกับ UBS เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ดำเนินการโดย Antonio Horta-Osorio ประธานคนใหม่ของ Credit Suisse หลังจากเข้ารับตำแหน่งในปลายเดือนเมษายน เขาประกาศความตั้งใจที่จะมุ่งเน้นไปที่การการจัดการซึ่งจะทำให้งบดุลของ Credit Suisse ลดลงและลดเงินทุนที่จัดสรรให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนรวมถึงการขายธุรกิจไปส่วนหนึ่ง

อย่างไรก็ตามการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองแห่งมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับอุปสรรคด้านกฎระเบียบที่สูงมาก ก่อนอื่น UBS จำเป็นต้องปิดสาขาในสวิส ปัญหาอีกประการหนึ่งคือหน่วยงานกำกับดูแลด้านการธนาคารของสวิสกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนตัวผู้นำ ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้กล่าวว่าฝ่ายบริหารใหม่จะไม่อนุมัติข้อตกลง นักวิเคราะห์เชื่อว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้อาจทำให้สมดุลในภาควาณิชธนกิจของประเทศแย่ลงและส่งผลกระทบต่อธนาคารอื่นๆในยุโรป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางการเงินของ Credit Suisse เกิดจากการล่มสลายของกองทุนป้องกันความเสี่ยง 2 แห่งนั้นคือ Greensill Capital และ Archegos Capital ก่อนหน้านี้กลุ่มบริษัทด้านการเงินได้ให้เงินกู้ถึง 140 ล้านดอลลาร์แกับทาง Greensill Capital ซึ่งต่อมาถูกฟ้องล้มละลาย สำหรับ Archegos Capital นั้น Credit Suisse ทำหน้าที่เป็นนายหน้า ในช่วงปลายเดือนมีนาคมปี 2021 บริษัทได้เริ่มขายสินทรัพย์ จึงเป็นผลให้กลุ่มบริษัทในสวิสประสบความสูญเสียถึง 4.7 พันล้านดอลลาร์จากความสัมพันธ์กับบริษัทการลงทุนที่ประสบปัญหา