คุณ Brett Heath ซีอีโอของ Metalla Royalty & Streaming ระบุว่าคริปโตเคอเรนซี่อาจทำให้เกิดวิกฤตระดับโลกรอบต่อไป เมื่อพูดถึงเหรียญดิจิทัล ผู้เชี่ยวชาญได้เปรียบเทียบวิทยาการการเข้ารหัสกับการล่มของเทคโนโลยีในช่วงต้นทศวรรษ 2000 และวิกฤตการจำนองในปี 2008

คุณ Heath กล่าว "เมื่อคุณมองย้อนกลับไปในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมาและวิกฤตการณ์ทางการเงินทั้งหมดที่เกิดขึ้น คุณรู้ไหม สิ่งเหล่านี้มีบางอย่างที่เหมือนกัน และหนึ่งในนั้นคือการนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่หรือเทคโนโลยีใหม่มาใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ได้เป็นที่เข้าใจกันดีนัก”

เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุของวิกฤตการณ์ทางการเงินที่จะเกิดขึ้น เขาได้อธิบายว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็น "ใบอนุญาตสำหรับภาคเอกชนในการพิมพ์เงิน" คุณ Heath ยังตั้งคำถามถึงปริมาณสภาพคล่องที่ถูกสูบเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ต้นปี 2020 เขากล่าวเสริม “หากเราย้อนกลับไปสู่วิกฤตการจำนองในปี 2008 [...] เรามีการนำหลักทรัพย์ที่รองรับการจำนองมาใช้เป็นจำนวนมาก, หลักทรัพย์ค้ำประกัน และเมื่อประชาชนยอมรับในส่วนของผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่นี้ มันก็จะพังและเป็นปัญหาใหญ่”

หัวหน้า Metalla Royalty & Streaming แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงเชิงระบบที่เกิดจากเงินทุนจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้าสู่สิ่งที่เป็นสินทรัพย์ที่ "ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง" เขาเชื่อว่าในที่สุดสิ่งนี้จะนำไปสู่การขายออกไปคล้ายกับวิกฤตเทคโนโลยีในช่วงต้นปี 2000 นอกจากนี้คุณ Heath ยังตั้งคำถามถึงความจริงที่ว่าเงิน Bitcoin มีอุปทานอย่างจำกัดเป็น 21 ล้านเหรียญจึงทำให้เกิดการขาดแคลนหรือทำให้มีมูลค่าเฉพาะทาง