เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแสดงผลงานที่แข็งแกร่งออกมา การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดจากคลื่นลูกที่สามของการระบาดครั้งใหญ่ของโคโรน่าไวรัสได้ส่งผลให้ความต้องการเงินดอลลาร์เพิ่มมากขึ้น

มูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐพอเทียบกับตะกร้าสกุลเงินโลกทั้งหกสกุลเกือบจะแตะระดับสูงสุดในเดือนเมษายนแล้ว และขณะนี้ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 92.78 โดยเงินยูโรอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 0.7% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงไปต่ำกว่าระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 1.1778 ดอลลาร์ การปรับตัวของเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากราคาผู้บริโภคสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ อัตราเงินเฟ้อในประเทศพุ่งขึ้น 5.4% ไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 4.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1991 สิ่งนี้น่าจะกระตุ้นการตอบสนองของนโยบายการเงินที่เข้มงวดอย่างรวดเร็วจากเฟด อย่างไรก็ตามหน่วยงานกำกับดูแลมองว่าราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว อันที่จริงอัตราเงินเฟ้ออาจชะลอตัวลงในเดือนต่อๆ ไป อย่างไรก็ตามมันจะใช้เวลาค่อนข้างนานโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเศรษฐกิจของสหรัฐเฟื่องฟูขึ้นและชาวอเมริกันที่มีเงินเต็มกระเป๋า คุณ James Knightley หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศของ ING กล่าวว่าพอเมื่อพิจารณาถึงการระบาดใหญ่และผลกระทบ,การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการขาดแคลนแรงงาน ความต้องการดูเหมือนจะขึ้นแซงหน้าการเติบโตทางเศรษฐกิจ

คุณ Knightleyเชื่อว่า ในปีนี้เฟดจะต้องเริ่มลดระดับโครงการซื้อพันธบัตรลงเป็นอย่างน้อย ซึ่งหมายถึงการซื้อพันธบัตรรายเดือนที่เป็นมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์ ในทางกลับกันเขากล่าว แนวโน้มนี้จะสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมากที่สุด