ภาคการเงินของสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ร้ายแรง สำนักงานความรับผิดชอบด้านงบประมาณ (OBR) ได้ออกคำเตือนโดยกล่าวว่าความเสี่ยงร้ายแรงบางประการกำลังเป็นภัยคุกคามต่อด้านการเงินสาธารณะของอังกฤษในปัจจุบัน

ภัยคุกคามที่สำคัญเกิดจากความต้องการของรัฐบาลในการจัดการกับการขาดดุลในงบประมาณอันเนื่องมาจากการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการระบาดครั้งใหญ่ การประมาณการของผู้ตรวจการณ์ด้านการเงินแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลต้องจัดการกับส่วนต่างเกือบ 3 หมื่นล้านปอนด์ในงบประมาณของรัฐของช่วงสามปีหน้า เงินส่วนใหญ่เหล่านี้จะถูกจัดสรรให้กับภาคการดูแลสุขภาพแห่งชาติตามสาเหตุต่างๆเช่น การฉีดวัคซีนจำนวนมากและความพร้อมในการตรวจเชื้อไวรัสโควิด นอกจากนี้โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการศึกษายังต้องการการอัดฉีดเงินสดจำนวนมาก

ความเสี่ยงประการที่สองเกิดจากความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการกำจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนภายในปี 2050 การดำเนินการตามคำปฏิญาณส่วนนั้นอาจทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มมากขึ้น นักวิเคราะห์ของสถาบัน OBR คาดการณ์ว่าหนี้สาธารณะของราชอาณาจักรอาจเพิ่มอีก 21% ของจีดีพีในอีก 30 ปีข้างหน้า การปรับขึ้นภาษีคาร์บอนอาจไปชดเชยกับการใช้จ่ายภาครัฐที่พุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตามมาตรการนี้ไม่เพียงที่จะครอบคลุมรายได้ภาษี ทิศทางของสถานการณ์แย่ลงเนื่องจากหนี้ของสหราชอาณาจักรอยู่ที่ประมาณ 100% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

ดังนั้นนี่คือความเสี่ยงส่วนที่สามนั้นเอง ปัจจุบันเงินในกระเป๋าของราชอาณาจักรรับภาระหนี้สาธารณะจำนวนมหาศาลอย่างท่วมท้น โอกาสทางเศรษฐกิจถูกขัดขวางด้วยเส้นทางที่ยากลำบากในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงมีข้อโต้แย้งที่หนักแน่นในการทำนายแนวโน้มของเศรษฐกิจอังกฤษที่เจริญรุ่งเรือง อันที่จริงนอกเหนือจากผลที่ตามมาของการระบาดครั้งใหญ่ ประเทศต้องยืนหยัดด้วยตัวเองนอกสหภาพยุโรป กล่าวอีกนัยหนึ่ง Brexit ปูทางไปสู่ความขัดแย้งระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป รวมถึงการแข่งขันทางการค้าอันดุเดือด