ประเทศต่างๆ ไม่ได้แสดภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรน่าอีกต่อไป และหน่วยงานของประเทศต่างๆ ก็สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยแนวทางเช่นนี้ทำให้ผลลัพธ์ที่ดี องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เชื่อว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศอุตสาหกรรมกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น องค์กรได้ชี้ว่าสหรัฐอเมริกาคือผู้นำอย่างแน่นอน ซึ่งจีดีพีออกมาสูงกว่าระดับก่อนวิกฤต 0.8% โดยทั่วไปอัตราการเติบโตจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศหลังวิกฤตของโรคระบาด ตัวอย่างเช่น GDP ในยูโรโซนยังคงลดลง 3% จากระดับก่อนเกิดโรคระบาด ขณะที่อัตราการเติบโตในสหภาพยุโรปออกมาต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโคโรน่าไวรัส 2.6% ในไตรมาสที่สองของปีนี้มันอยู่ที่ 2% และ 1.9% ตามลำดับแม้ว่าในไตรมาสแรกจะลดลงไปเล็กน้อย หากไม่รวมข้อมูลของสหรัฐจะพบว่าการเติบโตสูงสุดในสหราชอาณาจักร (4.8%) เช่นเดียวกับในอิตาลี (2.7%) จีดีพีในเยอรมนีเติบโต 1.6% เมื่อเทียบกับการหดตัวลง 2% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 0.9% ขณะที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นขยายตัว 0.3% จากเดือนเมษายนถึงมิถุนายนปีนี้พบว่าอัตราการเติบโตของ OECD เฉลี่ยอยู่ที่ 1.6% ตัวแทนขององค์กรกล่าวว่า “เมื่อเปรียบเทียบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองของปี 2021 กับระดับก่อนเกิดโรคระบาดของไตรมาสที่สี่งในปี 2019 จีดีพียังคงตามหลัง OECD โดยรวมถึง 0.7%”