21.04.201718:31:00UTC+00การเติบโตของยอด GDP จริงของประเทศจีนที่ลดลงไปมากจากช่วงเปลี่ยนผ่านทางด้านนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ

ระบบเศรษฐกิจของประเทศจีนในช่วงปี 2017 ที่มีโมเมนตัมอย่างแข็งแรงมาจากการที่มีตัวชี้วัดความถี่สูงจากภาคอุตสาหกรรม แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกมาเน้นย้ำถึงความเสถียรภาพทางการเงินในช่วงการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและการลดยอดการเติบโตของ GDP จริงในปีนี้ลงเล็กน้อยในร้อยละ 6.5 จากเดิมในการคาดการณ์ของปี 2016 อยู่ที่ ร้อยละ 6.5 ถึงร้อยละ 7 ผู้กำหนดนโนยบายได้ออกมากล่าวว่าจะเพิ่มการมุ่งเน้นไปที่การลดความเสี่ยง, การจัดการความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวเนื่องกับสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้, ระดับองค์กรระดับสูง, การดำเนินธุรการขององค์กรที่ไม่ได้อยู่ในรูปธนาคาร,รายละเอียดเกี่ยวกับพันธบัตรและตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยการเติบโตของยอด GDP จริงของประเทศจีนคาดว่าจะชะลอตัวลงตามลำดับเนื่องจากการเปลี่ยนผ่านทางด้านโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สถาบัน Scotiabank ได้ออกมาเน้นย้ำว่า "ทางเราคาดว่าผลผลิตของประเทศจะเริ่มลดลงไปในร้อยละ 6 ภายในปี 2018" ถึงแม้ว่าจะมีการชะลอตัวเกิดขึ้น แต่การเติบโตถึงร้อยละ 6ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ในระบบเศรษฐกิจในประเทศที่มีความสำคัญต่อระดับโลก โดยรัฐบาลของประเทศจีนจะดำเนินการอันฉีดเงินจำนวนมหาศาลเข้าสู่การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ในขณะที่กิจกรรมโดยรวมจะได้รับการกระตุ้นโดยผู้บริโภคของประเทศจีนและภาคการบริการ ส่วนค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ แต่จำนวนประชากรชนชั้นกลางและความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยดูเหมือนว่าจะขยับตัวเข้าใกล้ 100 ล้านในช่วงปลายทศวรรษนี้ โดยไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศจีนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและการเพิ่มขึ้นของผู้บริโภคแล้ว ภาคภายนอกก็ยังคงเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องอย่างมากเนื่องจากการส่งออกของประเทศจีนมีมูลค่าเข้าใกล้ร้อยละ 20 จากยอด GDP แล้วสหรัฐอเมริกาเป็นคู่ค้าที่สำคัญของประเทศจีน นอกจากนั้นประเทศจีนได้ทำการขนส่งสินค้าเกิอบหนึ่งในห้าของการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ดังนั้นแล้วการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในนโยบายทางการค้าโดยที่สหรัฐอเมริกาที่เริ่มมุ่งเน้นไปในด้านการคุ้มครองทางการค้ามากขึ้นเช่น อัตราภาษีขั้นสูงสำหรับการสินค้าส่งออกจากประเทศจีนเข้าไปในอเมริกา แล้วอาจจะเกิดผลลัพธ์เชิงลบต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศจีนได้