15.10.201821:30:00UTC+00ผลการประชุมของธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย: แนวโน้มขาขึ้นยังคงอยู่ในการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลีย

ผลการประชุมของวันที่ 2 เดือนตุลาคมของทางธนาคาร โดยเปิดข้อมูลออกมาในวันอังคารว่า สมาชิกในที่ประชุนนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศออสเตรเลีย เห็นด้วยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศภายในประเทศนั้น ยังคงขยายตัวในอัตราที่ดี แม้จะมีการคาดการณ์ว่าอาจจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ผลการประชุมแสดงให้เห็นว่า ความเสี่ยงในด้านเสถียรภาพทางการเงิน ยังไม่เปลี่ยนแปลงโดยรวมจากช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้ โดยสภาวะเศรษฐกิจในระดับโลกยังคงดีอยู่ แม้ว่าความเสี่ยงต่อการขาดทุนยังคงเกิดขึ้นอยู่ ทางธนาคารได้ระบุไว้ว่า การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้เป็นการสนับสนุนที่ดีต่อผู้ส่งออกของประเทศออสเตรเลียและการเติบโตภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น ผลการประชุมได้แสดงให้ทราบว่า "สมาชิกหลายคนได้ประเมินว่า มันมีความเหมาะสมที่จะใช้อัตราดอกเบี้ยส่วนกลางไว้ในระดับเดิม และธนาคารจะเป็นแหล่งความมั่นคงและความเชื่อมั่น ในขณะที่ความคืบหน้าในส่วนนี้ก็กำลังจะเกิดขึ้น" ในการประชุม ธนาคารได้โหวต ให้ยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ระดับต่ำสุดใน 1.50% ที่เคยอยู่มาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมของปี 2016 ทางด้านผู้กำหนดนโยบายเองก็ กล่าวย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำยังคงสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลียต่อไป ถึงแม้ว่า ความคืบหน้าในการลดการว่างงาน และการย้อนอัตราเงินเฟ้อกลับไปยังเป้าหมาย ก็คาดว่า ในความคืบหน้านี้น่าจะค่อยๆเกิดขึ้นตามลำดับ โดยทางธนาคารได้เน้นย้ำถึง มุมมองที่เคยนำเสนอออกมาในเดือนกันยายน อ้างอิงจากทางธนาคารกลางแห่งประเทศออสเตรเลีย ที่ได้ระบุออกมาว่า แนวโน้มในตลาดแรงงานยังคงดีอยู่ ส่วนการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจ จะทำให้มีการเติบโตขึ้นมาใน ค่าจ้างตลอดช่วงเวลาต่างๆ ผลการประชุมชี้ให้เห็นว่า "สมาชิกหลายคนได้ประเมินว่า จุดยืนในปัจจุบันของนโยบายทางการเงิน จะยังคงสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และช่วยให้เกิดความคืบหน้าต่อไป ที่จะไปช่วยให้มีการลดลงในอัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อที่จะย้อนกลับเข้าไปสู่จุดกึ่งกลางของเป้าหมาย" อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 2% โดยการคาดการณ์จากส่วนกลางแสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าเดิมในปัจจุบันภายในปี 2019 และ 2020 บัญชีในประเทศ ได้แสดงถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งโดยเท่ากับ 3.4% ในไตรมาสที่สอง ทางธนาคารคาดการณ์ว่า จะมีการเติบโตที่มากกว่า 3% ในปี 2018 และ 2019 แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แหล่งที่มาของความไม่แน่นอนที่ยังเกิดขึ้นอยู่นั้น ได้มาจากการบริโภคในภาคครัวเรือน สำหรับการเติบโตในรายได้ของภาคครัวเรือน ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และระดับหนี้สินได้อยู่ในระดับที่สูง ทางด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทางธนาคารกล่าวว่า สภาวะในตลาดที่อยู่อาศัยของซิดนีย์และเมลเบิร์น ยังคงลดระดับลงมาอย่างต่อเนื่อง และมาตรการค่าเช่าตามอัตราเงินเฟ้อของทั่วทั้งประเทศ ยังคงอยู่ในระดับต่ำ การเติบโตในส่วนของสินเชื่อ ที่ขยายไปยังผู้ครอบครองทรัพย์สิน ยังคงเกิดขึ้นอย่างมากแต่ ความต้องการของนักลงทุน ได้ชะลอตัวลงไปอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดที่อยู่อาศัย ได้เกิดขึ้น ผลการประชุมแสดงให้เห็นว่า "การเติบโตของสินเชื่อที่อยู่อาศัย ลดลงไป โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก การชะลอตัวอย่างมากในอุปสงค์จากทางด้านนักลงทุนจำนวนมาก ส่วนผู้ปล่อยสินเชื่อบางรายได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบมาตรฐาน เป็นจำนวนที่น้อยลง เพื่อตอบสนองกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินที่สูงขึ้นมา แม้ว่าอัตราสินเชื่อที่อยู่อาศัย จะถูกลดระดับลงไปเพื่อสินเชื่อใหม่ๆบางส่วน "