21.02.201915:27:00UTC+00สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบ อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเดิม

ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวลดลงไปในวันพฤหัสบดี จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานส่วนเกินในตลาด ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์ได้ อย่างไรก็ตาม การขาดทุนนั้น เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เนื่องจากการลดอุปทานลงของกลุ่มโอเปก และการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา ต่อประเทศเวเนซุเอลาและ อิหร่าน ได้ทำให้เกิดการสนับสนุนและ การจำกัดการลดลงของน้ำมันอีกด้วย อ้างอิงข้อมูลจากรายงานของสำนักงานข้อมูลสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐอเมริกาในเช้าวันนี้ออกมาว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงเหลือ ได้ปรัลตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 3.7 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดไปในวันที่ 15 เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาเป็นสัปดาห์ที่ห้าติดต่อกันแล้ว สำหรับการเพิ่มขึ้น นั้นเกิดขึ้นมามากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ รายงานจากทางสถาบัน EIA ระบุว่า ผลผลิตน้ำมันดิบ ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ได้เพิ่มขึ้นมาประมาณ 100,000 บาร์เรล โดยคิดเป็น 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดลงในวันที่ 15 เดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม สถาบัน EIA ยังระบุอีกว่า น้ำมันเบนซินและ ปริมาณน้ำมันกลั่น ปรับตัวลดลงไปในสัปดาห์ที่แล้ว โดยทั้งสองประเภทนี้ ลดลงไปถึง 1.5 ล้านบาร์เรล ในช่วงก่อนหน้านี้ในวันพุธ สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกันกล่าวในการรายงานว่า ปริมาณน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.3 ล้านบาร์เรล จนถึง 448.5 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบจาก West Texas Intermediate ในเดือนเมษายน ปิดตัวลงไปที่ 0.20ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 0.4% ในระดับที่ 56.96 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล ในเดือนธันวาคม ปี 2018นั้น ทางโอเปกและ ประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกโอเปก อย่างประเทศรัสเซีย ตกลงที่จะลดการผลิตลงไป 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่ในเดือนมกราคมนี้ ในช่วงนี้ ประเทศซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า จะลดปริมาณการผลิตลงไป ในปริมาณที่สูงกว่าที่ได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ ในวันพุธ ประเทศไนจีเรีย กล่าวว่า จะจำกัดการผลิตเพื่อที่จะได้ดึงราคาให้สูงขึ้นในตลาดโลก