12.04.201915:34:00UTC+00สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า ปรับตัวสูงขึ้นกว่าเดิม

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า ปิดตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ พร้อมกับความไม่สงบที่เพิ่มขึ้นในประเทศลิเบีย จากการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา ต่อประเทศอิหร่านและเวเนซุเอลา และการลดส่งออกที่นำโดยกลุ่มโอเปก เพื่อทำการจำกัดลดอุปทานน้ำมันดิบ ที่ตึงตัวในตลาดโลก ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า การส่งออกได้พุ่งขึ้นไปอย่างมาก ก็ได้ช่วยลดคลายความกังวล เกี่ยวกับความต้องการด้านพลังงานจากประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบล่วงหน้าของ West Texas Intermediate ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.31 ดอลลาร์หรือ 0.5% ปิดตัวที่ระดับ 63.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่มีการปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 64.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลระหว่างวัน ในวันพฤหัสดีพบว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบล่วงหน้าของเดือนพฤษภาคม ปิดตัวลงไปที่ 1.03 ดอลลาร์หรือ 1.6% โดยปิดอยู่ที่ 63.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบล่วงหน้าของ ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 1.5% ในสัปดาห์นี้ อ้างอิงข้อมูลตามการรายงานล่าสุดจาก สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศที่ออกมาระบุว่า อัตราการผลิตเฉลี่ยต่อวันของประเทศเวเนซุเอลา ลดลงไปอยู่ที่ 870,000 บาร์เรลต่อวัน และการผลิตโดยทั่วไปของทางโอเปกลดลงไปอยู่ที่ 550,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนมีนาคม การผลิตน้ำมันดิบในประเทศซาอุดิอาระเบีย ลดลงไปด้วยเช่นกัน ซึ่งลดลงไปยังระดับต่ำสุด ในรอบสองปี หลังจากที่ทางราชอาณาจักร ได้ลดการผลิตลงไปมากกว่าที่สัญญาไว้ ตามการรายงานพบว่า การผลิตน้ำมันของประเทศลิเบีย ดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้ม ที่จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากการสู้รบที่เกิดขึ้นมาใหม่ ระหว่างกลุ่มติดอาวุธสงคราม คุณ Mustafa Sanalla ประธาน บริษัท National Oil Corporation ได้ออกมารายงานถึง Financial Times ไว้ว่า จากสถานการณ์อาจจะเลวร้ายอย่างที่เคยเกิดขึ้นมา ในช่วงสงครามกลางเมือง ปี 2011 "ฉันกลัวว่า สถานการณ์อาจจะยิ่งเลวร้ายไปมากกว่าปี 2011 เนื่องจาก ขนาดกองกำลังที่เกี่ยวข้อง ในตอนนี้ " คุณ Sanalla กล่าวกับทาง FT ไว้อีกว่า "ถ้าหากไม่มีปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วนั้น ฉันเกรงว่า เจ้าสิ่งนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของทางเรา และในไม่ช้าพวกเราจะ ไม่สามารถผลิตน้ำมันหรือก๊าซได้อีกต่อไป " ข้อมูลที่นำเสนอออกมาจาก สำนักงานข้อมูลสารสนเทศด้านพลังงาน แสดงให้เห็นในวันพุธว่า ปริมาณน้ำมันดิบในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นมาเท่ากับ 7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก รายงานยังกล่าวว่า ปริมาณน้ำมันดิบ ในสหรัฐอเมริกา ได้เพิ่มขึ้นไปสู่ระดับสูงสุด นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ระหว่างที่มีการนำเข้าเพิ่มมากขึ้น รายงานที่มาจากทาง Baker Hughes ในบ่ายวันนี้ แสดงให้เห็นว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้ลดลงไป 3 ตัวที่เหลือ 1,022 ตัวในสัปดาห์นี้ ข้อมูลการค้าของประเทศจีน ที่เปิดเผยออกมาในวันนี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ยังเป็นแบบผสม โดยการส่งออก ดีดตัวกลับมาในระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ในขณะที่ การนำเข้า ลดลงไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า การส่งออกของประเทศจีน เพิ่มขึ้นมาเท่ากับ 14.2% ในเดือนมีนาคม ของปีก่อนหน้านี้ ที่ตรงตามตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และ ได้แสดงการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบห้าเดือนอีกด้วย การนำเข้าลดลงไปเท่ากับ 7.6% ต่อปี ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ที่ประเมินไว้ว่าจะอยู่ในระดับที่ 1.3% และขยับขยายตัวจากการปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 5.2% ในเดือนกุมภาพันธ์