25.11.201920:56:00UTC+00เงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ในระดับที่ดี

เงินดอลลาร์สหรัฐมีผลประกอบการออกมาที่ไม่แน่นอน เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในวันจันทร์ ถึงแม้ว่าดัชนีเงินดอลลาร์ใช้เวลาส่วนใหญ่ของรอบวันในแดนบวก เงินดอลลาร์ปรับตัวลงไปเล็กน้อยในช่วงเช้า แต่ฟื้นตัวมาอย่างรวดเร็ว และยังอยู่เหนือแนวเส้นภายหลังจากนั้น ช่วงที่มีแนวโน้มที่ดีระหว่างสหรัฐอเมริกา และประเทศจีนที่จะมีการลงนามในข้อตกลงทางการค้า ในช่วงจะถึงสิ้นปี สื่อหนังสือพิมพ์ที่ดำเนินการโดยพรรคคอมมิวนิสต์ของประเทศจีน ได้ลดการรายงานของสื่อ "เชิงลบ" และออกมากล่าวว่า ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจนั้นอยู่ "ใกล้อย่างมาก" ในช่วงที่จะมีข้อตกลงเกิดขึ้น Global Times ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐได้กล่าวไว้ใน Twitter ว่าทางจีนยังคงมีความมุ่งมั่น ที่จะดำเนินการเจรจาต่อไป เพื่อดำเนินการต่อในระยะที่สอง หรือแม้กระทั่งในระยะที่สามกับทางสหรัฐอเมริกา ประเทศจีนเสนอให้มีการเพิ่มบทลงโทษ สำหรับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในการพยายามที่จะยกเลิก ข้อตกลงทางการค้าบางส่วนกับทางสหรัฐอเมริกา ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา คุณ Robert O'Brien ออกมากล่าวว่า ข้อตกลงทางการค้าครั้งแรกอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงสิ้นปีนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Donald Trump และประธานาธิบดีของจีน Xi Jinping ได้แสดงความคิดเห็นที่ดีออกมาล่าสุดเกี่ยวกับ ข้อตกลงทางการค้าที่อาจเกิดขึ้นถึงแม้ว่าจะมีการรายงานถึง ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นซึ่งอาจส่งผลข้อตกลงเกิดขึ้นล่าช้าไปจนถึงปีหน้า ดัชนีเงินดอลลาร์ลดลงไปอยู่ที่ 98.17 ในช่วงตอนเช้าตรู่จากระดับสูงที่ 98.32 แต่ก็ยังปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ และเคยพบล่าสุดอยู่ที่ 98.32 ซึ่งเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยจากระดับปิดก่อนหน้านี้ เงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.1010ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเงินยูโร ในช่วงระดับปิดของวันศุกร์ที่ 1.021ดอลลาร์ ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของประเทศเยอรมันเพิ่มขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน ในเดือนพฤศจิกายน ที่บ่งชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มในการขยายตัวในระดับปานกลางในช่วงไตรมาสที่สี่ อ้างอิงข้อมูลจากการสำรวจจากสถาบัน IFO ที่แสดงให้เห็นว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 95.0 ในเดือนพฤศจิกายนจากเดิมที่ 94.7 ในเดือนตุลาคม สถาบันกล่าวว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีกำลังแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น โดยเศรษฐกิจในเขตยูโรที่ใหญ่ที่สุด มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นมาถึง 0.2% ในไตรมาสที่สี่ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น เมื่อนำมาเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเงินปอนด์ต่อหน่วยอยู่ที่ระดับ 1.2898 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 1.2832 ดอลลาร์ในวันศุกร์ เงินเยนของประเทศญี่ปุ่นลดลงไปประมาณ 0.3% อยู่ที่ระดับ 108.94 ต่อดอลลาร์ กองทุนการเงินระหว่างประเทศปรับลดการประมาณการของการเติบโตในประเทศญี่ปุ่น และยังเรียกร้องให้ทางรัฐบาลใช้นโยบายการคลังที่สนับสนุนการเติบโตในระยะสั้น และกระตุ้นโมเมนตัมในราคา อ้างอิงจากการแถลงการณ์สรุปของพันธกิจข้อที่สี่ของญี่ปุ่นในปี 2019 ได้ระบุว่าเศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวมาอยู่ที่ 0.8% ในปีนี้ ซึ่งลดลงไปน้อยกว่าการคาดการณ์ไว้ที่ 0.9% ในช่วงก่อนหน้านี้ ในช่วงปี 2020 สำหรับการเติบโตของจีดีพีที่แท้จริงคาดว่าจะชะลอตัวลงไปอยู่ที่ 0.5% เนื่องจากอุปสงค์จากต่างประเทศยังคงอ่อนตัว และยังชะลอการลงทุนที่เกี่ยวกับการส่งออก เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่ระดับ 1.3304 ข้อมูลด้านสถิติของประเทศแคนาดาแสดงให้เห็นว่า การค้าส่งของแคนาดาเพิ่มขึ้นมาเป็น 1.0% ไปเป็น 65.1 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน ซึ่งเกือบจะช่วยชดเชยการทิ้งตัวลงมาอยู่ที่ 1.2% ในเดือนสิงหาคม ยอดการขายเพิ่มขึ้นมาใน5 จาก 7 ส่วนย่อย ซึ่งคิดเป็น 82% ของยอดการขายส่งทั้งหมด เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย และเงินฟรังก์โดยที่คู่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์สหรัฐ (AUD-USD) และคู่สกุลเงินดอลลาร์ดอลลาร์และฟรังก์อยู่ใน 0.6775 และ 0.9969 ตามลำดับ