สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจบในรอบสัปดาห์ด้วย การปรับตัวลงมาอีกครั้ง หลังจากที่ปรับตัวลงไปหาตัวกระตุ้น เพื่อย้อนกลับไปในส่วนของการเติบโต โดยที่การปรับตัวลงนั้นเกิดขึ้นต่อพื้นหลัง พารามิเตอร์ของเศรษฐกิจมหภาคที่ฟื้นตัวขึ้นมาในสหรัฐอเมริกา ที่อาจจะระงับแนวโน้มขาขึ้น ที่ไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ในช่วงนี้

จากรายงานการจ้างงานของเดือนธันวาคม ที่ทำการนำเสนอออกมาในวันศุกร์พบว่า แย่กว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ โดยจำนวนการจ้างงานใหม่นอกภาคอุตสาหกรรมการเกษตรเพิ่มขึ้นมา 148,000 ราย โดยคาดการณ์ไว้ใน 190,000 ราย สำหรับอัตราการว่างงานก็ยังอยู่ทีเ่ดิมเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน และอยู่ในร้อยละ 4.1 โดยที่ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงนั้นเพิ่มขึ้นมาร้อยละ 2.5 ซึ่งมากกว่าเดือนก่อนหน้านี้เล็กน้อยจากร้อยละ 2.4

โดยรวมแล้วในปี 2017พบว่า มีการจ้างงานใหม่เพิ่มขึ้นมา 2.06ล้าน งาน ซึ่งน้อยกว่าปี 2016 แต่ก็ยังมากกว่าการคาดการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าอัตราการว่างงานไม่มากกว่าระดับในปัจจุบัน มันเพียงพอในการสร้างคำแหน่งงานมาถึง 100,000 งานในรอบเดือน นั้นหมายความว่า ตลาดแรงงานโดยรวมแล้วมีการปรับตัวเกิดขึ้น

เงินดอลลาร์ดูอ่อนกำลังลงมาในช่วงสัปดาห์นี้ หลังจากที่อุปสงค์ต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงของนักลวงทุนเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ของเศรษฐกิจระดับโลกที่ดีขึ้นมา สำหรับข้อมูลที่รายงานออกมาจากประเทศจีน ที่ดีกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ได้สนับสนุนแนวโน้มในระดับโลกต่อการเพิ่มขึ้นของ กิจกรรมและสนับสนุนต่อ การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ ขณะที่การเติบโตของกิจกรรมทางธุรกิจก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของ อุปสงค์สำหรับเงินดอลลาร์ สิ่งเหล่านี้ใช้ในการเพิ่มแนวโน้มการกู้ยืมเงินด้วยสกุลเงินของประเทศ

เงินดอลลาร์อาจจะอยู่ภายใต้แรงกดดัน เป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน หรืออย่างน้อยก็จะนานเท่ากับการฟื้นตัวของการลงทุน ที่เกิดขึ้นในตลาดเกิดใหม่ และในส่วนของภาคสินค้า ทางด้านทุนก็พบว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ในสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าจะมีการใช้งานแผนการปฏิรูปภาษีใหม่แล้ว ที่ได้แตกต่างออกจากส่วนอื่นของโลกที่กำลังมองหาผลตอบแทนที่สูง

มีการเพิ่มขึ้นมาของความกังวลเกี่ยวกับ ความสามารถของธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกาในการปรับอัตราดอกบเีย้ แม้ว่ามีคำอธิบายจากทางการสำหรับความจำเป็นต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมา เพื่ออัตราเงินเฟ้อ เพราะว่าระดับปัจจุบันของกิจกรรมผู้บริโภค ไม่สูงพอที่จะดำเนินการตามการเจรจา สำหรับอัตราเงินเฟ้อก็ยังอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% และแผนการปฏิรูปภาษีใหม่นั้นก็จะสนับสนุนต่อ การเติบโตของการขาดดุลในงบประมาณ ดังนั้นแล้ว การปรับอัตราดอกเบีย้อาจก่อให้เกิดการเพิม่ขึ้นของค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ในทุกระดับ ท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย แล้วมันอาจก่อให้กิดการชะลอตัวมากกว่าการเติบโต

การเคลื่อนไหวของผลตอบแทนในพันธบัตรอายุ 5 ปี แสดงให้นักลงทุนทั้งหมดเชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นมา ดังนั้นแล้วความเชื่อมั่นนี้เอื้ออำนวยต่อทางธนาคารกลาง และอาจจะสนับสนุนต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอีกก็เป็นได้

ในสัปดาห์หน้าจะมาพร้อมกันการรายงานข่าวทางเศรษฐกิจมหภาค โดยโครงสร้างทางธุรกิจจะเข้าสู่ภาวะปกติ ในวันจันทร์ ทางธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกาจะทำการรายงานการเคลื่อนไหวของสินเชื่อผู้บริโภคในเดือนพฤศจิกายน โดยการรายงานที่สำคัญสำหรับการประมเินกิจกรรมของผู้บริโภค และการคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตของเงินเฟ้อ ในวันอังคาร ทาง NFIB จะทำการส่งรายงานเกี่ยวกับระดับของความเชื่อมั่นในธุรกิจขนาดเล็กในรอบเดือนธันวาคม โดยตัวบ่งชี้นี้เป็นเวลามานานกว่าหนึ่งปีได้อยู่ในระดับสูง และสนับสนุนแนวโน้มทางเศรษฐกิจอีกด้วย

ในันพุธ กระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกาจะทำการรายงาน การเคลื่อนไหวของราคาการนำเข้า และการส่งออก โดยวันพฤหัสบดี จะมีการรายงานออกมาเกี่ยกวับดัชนีราคาผู้ผลิต โดยในวันศุกร์จะเป็นวันที่มีการรายงานส่วนใหญ่ออกมา สำหรับข้อมูลราคาผู้บริโภค และการค้าปลีก ดังนั้นแล้วประเด็นหลักจะเป็นเรื่องของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่จะสะท้อนให้ทราบถึงอุปสงค์ของผู้บริโภค โดยไม่เกี่ยวข้องกับราคาอาหารและราคาพลังงาน ยอกจากนั้น ยังมีการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญก็มีท่าทีที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะมีการปรับตัวขึ้นมาเป็นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับของเดือนพฤศจิกายนในร้อยละ 1.7 โดยการนำเสนอข้อมูลนี้ออกมาจะสนับสนุนเงินดอลลาร์ไม่ให้ปรับตัวลงไปต่ำกว่าที่ได้คาดการณ์เอาไว้

นอกจากนั้นในสัปดาห์หน้า สมาชิกอีกหลายคนในคณะกรรมการผู้กำหนดนโยบายทางการเงินจะออกมแถลงการณ์ ที่อาจจะเปลี่ยนการรคาดการณ์เกี่ยวกับ การปรับตัวขึ้นมาของอัตราดอกเบี้ยในการประชุมของเดือนมีนาคม ส่วนตอนนี้พบว่า ความสนใจหลักจะตรงไปยังแผนการปฏิรูปภาษี ที่อาจจะปรับเปลี่ยนแผนการของธนาคารในส่วนของอัตราดอกเบี้ย

สถานะของเงินดอลลาร์อยู่ในระดับปกติ หากเทียบกับสกุลเงินสินค้าแล้ว พบว่ามันอยู่ภายใต้แรงกดดัน แต่หากเทียบกับเงินเยน และสกุลเงินยูโรพบว่า การปรับตัวลงไปนั้น อาจจะสิ้นสุดลงในอีกไม่นาน