นาย Trump กับการไม่เห็นด้วยทุกอย่าง
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา:
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย Trump ที่มาพร้อมกับเรื่องอื้อฉาวในการประชุมกับ "Big Seven" ที่ได้ปฏิเสธที่จะลงนามภายใต้คำแถลงทั่วไป สำหรับคำแถลงของเขาต่อ ผู้นำของประเทศแคนาดาถือเป็นการดูถูกอย่างแท้จริงส่วน การประชุมของทั้งเหล่า "Seven" เป็นแนวทางการจู่โจมจากนาย Trump ต่อฝ่ายประเทศพันธมิตร อย่างยุโรป (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศเยอรมัน) และแคนาดา
นาย Trump ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการประชุมของนาโต้ ที่เขาได้หยุดทุกๆคน ด้วยต้องการเพิ่มเงินช่วยเหลือด้านการป้องกันของประเทศที่เข้าร่วมโครงการอย่างทันที ที่ได้เพิ่มขึ้นเป็น 4% แม้ตามความเป็นจริงแล้ว มันจะเป็นไปได้ยากที่จะบรรลุเป้าหมาย 2% ก็ตามที แต่นาย Trump ก็ออกมาจู่โจม ประเทศเยอรมนีและคุณ Merkel อีกครั้งสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศที่ต่ำ
นาย Trump ได้เยือนประเทศอังกฤษและวิพากษ์วิจารณ์ ถึงแผนการของนายกรัฐมนตรี May เกี่ยวกับ "Brexit แบบครึ้งตัว" ในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือว่าเป็นการพึ่งพาการอยู่รอดของรัฐบาล May มากขึ้น
นาย Trump ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า เขาคิดว่าสหภาพยุโรปเป็นโครงสร้างที่เป็นอันตราย และไม่มีความจำเป็น โดยเขาได้ยื่นข้อเสนอให้ประเทศฝรั่งเศสออกจากสหภาพยุโรป อีกด้วย
นาย Trump ออกมาจู่โจม ประเทศจีนอีกครั้ง มันก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดสงครามการค้ามากขึ้น โดยที่ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เขาสัญญาว่าจะเพิ่มภาษีในสินค้าใหม่เกือบทั้งหมด ที่เข้ามาในสหรัฐอเมริกา จากประเทศจีน โดยเป็นจำนวน 500 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนี้จะได้ไม่ต้องสงสัยถึง ผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจน ในอัตราเงินเฟ้อ ในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกา อาจจะยังไม่ต้องพูดถึง มาตรการตอบโต้ในส่วนของประเทศจีน สำหรับผลที่ตามมาน่าจะเป็นผลมาจากการลดความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศจีน และสหรัฐอเมริกา นั้นก็คือความสัมพันธ์นี้ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1978 (!)
โดยทั่วไปแล้ว มันเป็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ที่นาย Trump ได้สร้างมันขึ้นมาก่อนที่พวกเราจะรู้ตัว นั้นเป็นความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สำหรับเศรษฐกิจในระดับโลก และอาจจะส่งผลมากกว่าด้านเศรษฐกิจ
นาย Trump กำลังจู่โจมสหภาพยุโรปต่อไป เกี่ยวกับปัญหาทางการค้า โดยออกมาเรียกร้อง ให้มีภาษีที่เกี่ยวกับรถยนต์จากสหภาพยุโรปที่อาจจะเป็นปัญหาต่อประเทศเยอรมันได้ต่อไป ในอีกด้านหนึ่งนาย Trump กำลังใช้การสนับสนุนของยุโรปในสงครามการค้าต่อประเทศจีน
ในช่วงก่อนหน้านี้นาย Trump ได้ถอนตัวออกจาก "ข้อตกลงนิวเคลียร์" ของประเทศอิหร่าน ในขณะที่ยุโรปยังคงรักษาความสัมพันธ์กับอิหร่านต่อไป
นาย Trump ก็ออกมาโจมตีการบริการพิเศษของตัวเอง โดยบอกว่าเขาไม่ไว้ใจการสืบสวนของพวกเขา สำหรับการแทรกแซงของประเทศรัสเซียในการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา ต่อจากนั้น เขาก็ออกมาพิสูจน์ต่อจากนั้น เขาก็บอกว่าเขาเองก็ไม่ไว้ใจพวกเขาอีกด้วย
ในที่สุดแล้ว นาย Trump ก็ยังโจมตีเฟด โดยขอให้มีการลงโทษการตัดสินใจที่จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย โดยเขากล่าวว่า ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ที่กำลังปรับอัตราดอกเบี้ยส่วนกลาง จะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ของสหรัฐและทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้หนี้สินของสหรัฐอเมริกา (มากกว่า 20 ล้านล้านดอลลาร์) มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และช่วยให้คู่แข่งของสหรัฐอเมริกา อย่างประเทศจีนและยุโรป ในทางการค้า เพิ่มการขาดดุลทางการค้าในสหรัฐอเมริกามากขึ้น
นาย Trump ได้ออกมาแถลงการณ์ไว้ในวันพฟหัสบดีไว้ และ แม้ว่ามีคำวิพากย์วิจารย์ว่า นาย Trump ได้จู่โจมต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา แต่คำแถลงการณ์ของเขาที่ออกมา ก็ยังแสดงให้ทราบว่า เขาก็ยังเคารพในความเป็นอิสระของทางเฟดและ ในตัวบุคคลของนาย Powell หัวหน้าของเฟด ส่วนวันศุกร์นาย Trump ก็ออกมาเน้นย้ำถึงประเด็นของเขาต่อ
บางที คนเดียวที่นาย Trump พูดถึงด้วยความเห็นอกเห็นใจในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นั้นก็คือประธานาธิบดีแห่งประเทศรัสเซีย Putin โดยนาย Trump หลังจากการประชุมที่เมืองเฮลซิงกิกับPutin เมื่อวันพุธที่ผ่านมานาย เขาก็ได้เชิญประธานาธิบดีรัสเซีย เดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาทันที แล้วนี้จึงยิ่งเป็นการเน้นย้ำต่อคำวิพากย์วิจารณ์ของเขา
นาย Trump ออกมาประกาศว่า ประเทศจีนและธนาคารกลางแห่งยุโรป ต้องการให้มีนโยบายในการประเมินค่าเงินของพวกเขา เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการค้าของสหรัฐอเมริกา ส่วนทางด้านตลาดเองก็เริ่มพูดถึง "สงครามเงินตรา" แทนที่
นี่อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถพูดได้ว่า "ยิ่งผู้บังคับบัญชาอยู่ข้างหน้ามากเท่าไหร่ในสงคราม โอกาสที่จะชนะก็ยิ่งน้อยลง"
